คณะอนุกรรมการอุทธรณ์อีอีซีมีมติยืนไม่รับพิจารณาข้อเสนอโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เหตุกลุ่มกิจการค้าร่วมธนโฮลดิ้งฯยื่นไม่ทันเวลาที่กำหนด พร้อมรับทราบความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเตรียมเซ็นสัญญาร่วมทุน ก.ค.62 นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือคณะกรรมการอีอีซี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการอีอีซี ครั้งที่ 7/2562 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอีอีซี ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับทราบความคืบหน้าขั้นตอนการดำเนินงานโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตอีอีซี รวม 3 โครงการ โดย 1 ใน 3 โครงการคือ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก คณะกรรมการอีอีซีรับทราบและเห็นด้วยกับความเห็นของคณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองที่มีมติยืนไม่รับพิจารณาข้อเสนอกล่องที่ 6/10 และกล่องที่ 9/10 ของกลุ่มกิจการค้าร่วมธนโฮลดิ้งฯ เนื่องจากยื่นหลังกำหนดเวลาตามเอกสารการคัดเลือกเอกชน โดยจะทำการแจ้งผลการพิจารณาต่อกลุ่มกิจการค้าร่วมธนโฮลดิ้งฯ ต่อไป ทั้งนี้สำนักงานอีอีซีอยู่ในช่วงรอการพิจารณาของศาลปกครองพิจารณาคำร้องของกลุ่มกิจการค้าร่วมธนโฮลดิ้ง ฯ ว่า การยื่นข้อเสนอกล่องที่ 6/10 และกล่องที่ 9/10 ของกลุ่มฯ ไม่ได้ล่าช้า แม้จะยื่นล่าช้าไป 9 นาที จากกำหนดเวลาสิ้นสุด 15.00 น. โดยกลุ่มธนโฮลดิ้งฯ ยื่นเมื่อเวลา 15.09 น. หากศาลปกครองมีคำตัดสินใด ๆ ออกมาทางสำนักงานอีอีซี จะเดินหน้าต่อไป หากพิจารณาว่าการยื่นข้อเสนอไม่ยื่นล่าช้าก็จะเปิดข้อเสนอ และนำไปสู่การประกาศผู้ชนะการประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออกต่อไป สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมลงนามสัญญาร่วมทุนภายในเดือนก.ค.62 หลังจากรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว และขณะนี้ รฟท.เดินหน้าจัดทำแผนส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนผู้ร่วมทุน ขณะที่โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ล่าสุดคณะกรรมการอีอีซีได้รับทราบความเห็นของกรรมการ กพอ.แต่ละคนต่อร่างสัญญาร่วมลงทุน และคำชี้แจงของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)ต่อร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการและจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ