เอสเอ็มอีแบงก์ประสานพลังกรมสรรพากร เดินหน้า“ขับเคลื่อน SMEs ไทย กู้ง่าย…โตไว้ใช้บัญชีเดียว” พลิกโฉมมอบความรู้บัญชีเดียวให้เป็นเรื่องง่าย ปล่อยกู้ดอกเบี้ยถูกสุด 0.25% ต่อเดือนนาน 3 ปี นำร่องจัด 9 ครั้งใน 9 จังหวัด คิกออฟนครสวรรค์ 9 ก.ค.62 นายพงชาญ สำเภาเงิน รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์)เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยเข้าสู่มาตรฐานบัญชีเดียว ซึ่งจะก่อประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ประเมินผลประกอบการได้ชัดเจนได้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีและยกเว้นภาษีอากร อีกทั้งเข้าถึงมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐและแหล่งทุนจากสถาบันการเงินในระบบได้สะดวกและรวดเร็ว ทั้งนี้ ปัจจุบันเอสเอ็มอีตื่นตัวให้ความสำคัญกับการทำบัญชีเดียวสูงมาก อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ยังกังวลถึงความยุ่งยากและขาดความรู้ในการจัดทำบัญชีเดียว เอสเอ็มอีแบงก์และกรมสรรพากรจึงร่วมกันจัดโครงการ "ขับเคลื่อน SMEsไทย กู้ง่าย...โตไว้ใช้บัญชีเดียว" ซึ่งเป็นมิติใหม่ของการมอบความรู้ความเข้าใจในการทำบัญชีเดียวครบวงจรในรูปแบบ “ความรู้คู่เงินทุน” จัดเป็นรูปแบบงานเสวนาเชิงปฏิบัติการ สกัดเนื้อหาเฉพาะแก่นสำคัญที่จำเป็นใช้ในทางปฏิบัติ จะมีหน่วยงานพันธมิตรต่างๆมาอำนวยความสะดวกช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการยกระดับสู่นิติบุคคลเช่น ผู้เชี่ยวชาญจากกรมสรรพากรให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด มีบริการตรวจเครดิตบูโร โดยธนาคารเตรียมบริการสินเชื่อพิเศษไว้รองรับในโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ผ่อนนาน 7 ปี กรณีเป็นบุคคลธรรมดาใน 3 ปีแรก คิดอัตราดอกเบี้ย 0.417% ต่อเดือน หรือประมาณ 5% ต่อปี แต่หากยกระดับเป็นนิติบุคคลคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3 ปีแรก เหลือเพียง 0.25% ต่อเดือน หรือ 3%ต่อปี ปัจจุบันถือเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในระบบ รวมถึงใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันได้ด้วย หากมีความพร้อมสามารถยื่นกู้ภายในงานได้ทันที สำหรับโครงการดังกล่าวจะเดินสายจัดทั่วประเทศเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ต้องการยกระดับเข้าสู่บัญชีเดียวสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรี เบื้องต้นนำร่องกำหนดจัด 9 ครั้ง ใน 9 จังหวัด ตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.-ส.ค.62 ประเดิมครั้งแรกวันที่ 9 ก.ค.62 โรงแรมแกรนด์ฮิลล์ รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.นครสวรรค์,วันที่ 11 ก.ค.62จ.พระนครศรีอยุธยา,วันที่ 23 ก.ค.62จ.สงขลา,วันที่ 25 ก.ค.62 จ.นครศรีธรรมราช,วันที่ 6ส.ค.62จ.กาฬสินธุ์,วันที่ 8 ส.ค.62จ.สุรินทร์,วันที่ 20 สิ.ค.62 จ.ระยอง,วันที่ 22 ส.ค.62 จ.เพชรบุรี และวันที่ 28 ส.ค.62 จ.เชียงราย โดยเปิดรับผู้เข้าร่วมโครงการครั้งละประมาณ 80 คน นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ รองอธิบดีกรมสรรพากรกล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างกรมสรรพากร และ ธพว. ในโครงการดังกล่าวจะมีส่วนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยปรับตัวเข้าสู่บัญชีเดียวได้ง่าย ส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตได้โดยไม่สะดุด และเกิดความยั่งยืน ทางกรมสรรพากรเตรียมทีมงานที่มีความรู้และประสบการณ์ พร้อมไปมอบความรู้และให้ปรึกษาตลอดการจัดงาน 9 ครั้ง ใน 9 จังหวัด