ปตท.ตั้งเป้าไทยศูนย์กลางนวัตกรรม เตรียมโรดโชว์“วังจันทร์ วัลเลย์“ดึงดูดนักลงทุนไทย-ตปท.ร่วมทุนพื้นที่อีอีซีไอ
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยหลังการเยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนา ของบริษัท ชไนเดอร์ จำกัด ณ เมืองเกอร์นอฟ ประเทศฝรั่งเศส ว่า ในช่วงไตรมาส4ปีนี้และต้นปี2563 ปตท.จะเดินทางโรดโชว์ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อชักชวนนักลงทุนทั้งไทยและต่าง เข้ามาลงทุนตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา ในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซีไอ)
ทั้งนี้ เนื่องจากต้องการสร้างพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นศูนย์กลางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมของทุกภาคส่วน นำไปต่อยอดสร้างมูลค่าได้ โดยการโรดโชว์นั้น จะเริ่มจากพันธมิตรที่เป็นคู่ค้าของปตท.ที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมประมาณ 300-500 ราย มารับฟังข้อมูลต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่พื้นที่อีอีซีไอ
“การพัฒนานวัตกรรม การลงทุนนวัตกรรม ปตท.ลงทุนเพียงองค์กรเดียวไม่ได้ ต้องไปกับหลายๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเชิญชวนนักลงทุนกลุ่มนวัตกรรมจากต่างประเทศ เช่น เยอรมัน อังกฤษ ฟินแลนด์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ เพื่อมาใช้พื้นที่วังจันทร์ วัลเลย์ ที่ปตท.มุ่งมั่นจะให้เป็นศูนย์กลางงานนวัตกรรมฯที่สามารถนำมาผลิต และส่งออกไปทั่วโลกได้ ส่วนนักลงทุนไทย หลายองค์กร มีงานวิจัย มีนวัตกรรม แต่ยังขาดการต่อยอด เพราะฉะนั้น หากทุกฝ่ายรวมกัน เชื่อว่าประเทศไทย จะเป็นศูนย์นวัตกรรมได้”
สำหรับการเข้าใช้พื้นที่ ขณะนี้ มีกลุ่ม ปตท.ที่เริ่มเข้าไปเช่าพื้นที่อาทิบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ ปตท.สผ.ที่เน้นการพัฒนาต่อยอดการใช้งานโดรน นอกจากนี้ยังมึ กลุ่มรายใหญ่หลายราย อาทิ กลุ่มจีอี จากสหรัฐ หัวเว่ย จากจีน ได้เข้าศึกษาเพื่อลงทุนและขยายการลงทุนในพื้นที่อีอีซีไอด้วย และยังมีอีกหลายรายที่สนใจ
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ให้ความสำคัญการพัฒนาบุคลากร เพื่อรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม จึงได้อนุมัติ
จะจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการจัดตั้งโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (เควิส) และสถาบันวิทยสิริเมธี (วิสเทค) เป็นแหล่งกำเนิดบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ต่อเนื่องไปอีก 10 ปี (ปี 65 - 74) จากเดิมที่จัดสรรงบประมาณถึงปี 64 เพราะการตั้งหลักเรื่องการสร้างบุคลากรดังกล่าวตั้งใช้เวลา และใช้เงินทุน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย มาช่วยสนับสนุน รวมถึงมีบริษัทต่างๆมาสนับสนุน สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสนามกีฬา อีกทั้งมีแผนจะไปชักชวนบริษัทในเครือ ปตท.มาช่วยลงทุยในพื้นอีอีซีไอด้วย
