วันที่ 26 มิ.ย.นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านการคอร์รัปชัน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Veera Somkwamkid โดยมีเนื้อหาดังนี้...ขอตอบข้อสงสัย และการโจมตีด้วยความไม่เข้าใจว่า ผมเคยกล่าวคำขอบคุณหัวหน้า คสช. (เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2557 ที่กองปราบปราม) และเอามาทวงบุญคุณกับผมอย่างไม่รู้จบ ขอให้ทุกท่านอ่านสาเหตุที่ทำให้ผม กล่าวคำขอบคุณหัวหน้าคสช. ในวันนั้น ดีครับเอาคลิปนี้มาถามผม จะได้บอกเล่าความจริงเบื้องหลังว่าทำไมผม คุณแม่ผม ต้องกล่าวคำขอบคุณประยุทธ์ในวันที่ 2 ก.ค.2557 วันที่ผมกลับมาแผ่นดินไทย ขอให้ฟังด้วยใจเป็นธรรม ฟังความจริงอีกด้านก่อนตัดสินใจเชื่อ คืนวันที่ 1 ก.ค.2557 หลังจากผมได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเปร์ยซอว์ ท่านฑูตธัชยุท ภักดี เอกอัครราชฑูตไทย ได้นำผมไปพักที่สถานฑูตไทยกรุงพนมเปญ เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ในขณะที่นั่งอยู่ที่ห้องรับรอง กำลังติดตามข่าวทีวีเมืองไทย ซึ่งกำลังนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการปล่อยตัวผม ภรรยาท่านฑูตได้แจ้งให้ผมไปรับโทรศัพท์ทางไกลจากเมืองไทย บอกว่าหัวหน้าคสช. จะคุยด้วย เมื่อผมรีบไปรับโทรศัพท์ของสถานฑูต สายก็วางไปก่อนแล้ว ต่อมาสักครู่ใหญ่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีต่างประเทศ (ซึ่งในขณะนั้นได้เดินทางมาติดต่อราชการกับกัมพูชา กรณีมีแรงงานกัมพูชาในไทยแตกตื่นอพยพกลับจำนวนมาก) ได้โทร.เข้าสถานฑูต แจ้งผมทราบดังนี้ บอกว่าหัวหน้าคสช. ตั้งใจจะคุยกับผมโดยตรง แต่กำลังติดธุระด่วน จึงให้คุณสีหศักดิ์แจ้งกับผมแทนว่า ให้หลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวล โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องชายแดน เพราะจะทำใหฮุนเซนไม่พอใจ และขอให้ผมขอบคุณฮุนเซนที่ปล่อยตัวผม และให้ขอบคุณหัวหน้า คสช. ที่ช่วยเหลือผม ในขณะนั้นผมยังไม่ทราบความจริงไม่ทราบเบื้องลึกเบื้องหลัง ว่ามีใครช่วยเหลือผมบ้าง ด้วยข้อมูลที่ไม่เพียงพอในขณะนั้น เมื่อพบกับสื่อมวลชนผมจึงเลือกขอบคุณเฉพาะหัวหน้า คสช. เพียงคนเดียว (และการที่ผมไม่ยอมขอบคุณฮุนเซน ทำให้ประยุทธ์และฮุนเซนไม่พอใจผมมาจนถึงทุกวันนี้) แต่ผมไม่ยอมขอบคุณฮุนเซน เนื่องจากการปล่อยตัวผมของฮุนเซนเป็นเรื่องที่เขาสมควรจะทำนานแล้ว ผมไม่ได้ทำความผิดทั้งกฏหมายไทยและกฏหมายของกัมพูชา การจับตัวผมในเขตแดนไทยเอาไปดำเนินคดีอย่างผิดกฏหมายระหว่างประเทศ ยัดข้อหาเป็นจารชนไปจารกรรมความลับทางทหารให้แก่ผมอย่างไม่ป็นธรรม เพื่อเอาผมไปทรมานในคุกนรกถึง 3 ปี 6 เดือน ผมว่ามันไม่ยุติธรรมกับผม และมันมากเกินพอที่ผมจะกล่าวคำขอบคุณฮุนเซนได้ แต่หากฮุนเซนยอมคืนแผ่นดินไทยและถอนกำลังทหารออกไปจากแผ่นดินไทย ผมอาจขอบคุณเขาก็ได้ ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ไทยยังเสียแผ่นดินตลอดแนวชายแดนให้ทหารเขมรยึดครองอยู่ ทุกท่านสามารถไปตรวจสอบดูได้ว่าจริงหรือไม่ ไปดูที่ชายแดนได้เลย ผมและครอบครัว(คุณแม่ผม)ในวันแรกที่กลับเมืองไทยเลือกที่จะขอบคุณหัวหน้า คสช. เนื่องจากเข้าใจว่าเขาช่วยผม แต่หลังจากกลับมาเมืองไทยไม่นาน ผมจึงได้ทราบความจริงจากสื่อมวลชนบางคนที่ติดตามคณะของนายสีหศักดิ์ไปทำข่าวที่พนมเปญ แจ้งว่าฮุนเซนปล่อยตัวผมโดยที่ทางการไทยไม่เคยมีใครทราบล่วงหน้ามาก่อน อย่าว่าแต่คนไทยจะทราบล่วงหน้า แม้แต่คนในรัฐบาลเขมรเอง ก็ไม่มีใครทราบเลยว่าฮุนเซนจะปล่อยตัวผม หากการปล่อยตัวผมเกิดจากการประสานจากฝ่ายไทยหรือจากเขมร ทั้งสองประเทศต้องรู้ล่วงหน้า ต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อจะปล่อยตัวผม เหมือนเช่นกรณีที่คุณราตรี พิพัฒนไพบูลย์ ได้รับการอภัยโทษ ถูกปล่อยตัวออกมาก่อนผมในปี 2555 เนื่องในวาระงานพิธีพระราชทานเพลิงพระศพของกษัตริย์สีหนุ ในกรณีของคุณราตรีคนไทยทราบล่วงหน้าเป็นเดือน ในวันที่ปล่อยตัวผม(1 ก.ค.2557) เวลาบ่ายสามโมงกว่า หลังจากฮุนเซนหยิบกฤษฎีกาปล่อยตัวผม ส่งให้นายสีหศักดิ์ และถามว่าจะรับตัววีระกลับไปเลยไหม? นายสีหศักดิ์จึงบอกว่ากฤษฎีกาให้ปล่อยตัววันที่ 1 ก.ค.2557 จึงขอรับตัวผมในวันนี้เลย ฮุนเซนจึงโทร.ไปหาประธานศาลฎีกา ให้ทำหนังสือปล่อยตัวผม และให้ส่งหนังสือไปยังผบ.เรือนจำเปร์ยซอว์ เพื่อให้ปล่อยตัวผมทันที หนังสือปล่อยตัวผมไปถึงเรือนจำเวลาหนึ่งทุ่มของวันที่ 1ก.ค.2557 นอกจากนี้ยังมีนายทหารยศพลเอกท่านหนึ่งก็ให้ข้อมูลสอดคล้องกัน และพี่ไพศาล พืชมงคล ก็เป็นอีกคนที่ยืนยันว่ามีต่างชาติร่วมช่วยเจรจาให้มีการปล่อยตัวผม(โดยให้ผมขอบคุณรัฐบาลจีน) ทั้งหมดนี้จึงทำให้ผมเชื่อว่าฮุนเซนเลือกที่จะปล่อยผม โดยที่ไม่บอกใครล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีคนไทยและคนต่างชาติอีกหลายคน ที่มีส่วนช่วยเหลือเจรจา ผลักดันให้ฮุนเซนปล่อยตัวผมในที่สุด ทั้งหมดนี้คือความจริงที่เกิดขึ้น ผมไม่จำเป็นต้องแต่งเรื่องมาแก้ตัว เพราะท่านทั้งหลายสามารถสอบถามหาความจริงเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง จากการไปสอบถามบุคคลตต่างๆที่ผมผมเอ่ยถึง ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ และท่านสามารถเข้าไปค้นหาข่าวเก่ามาเทียบเคียงได้เอง เมื่ออ่านทั้งหมดแล้ว หากยังเข้าใจว่าผมจำเป็นต้องชดใช้บุญคุณให้กับคุณประยุทธ์อย่างไม่มีวันจบสิ้น ผมก็ต้องยอมให้ท่านเชื่อเช่นนั้นต่อไปครับ