เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (25 มิ.ย.62) ร.ต.อ บรรเจิด จองพิทักษ์พงษ์ รอง สว(สอบสวน) สภ.ท่าเรือ ได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ วิสามัญคนร้ายใช้อาวุธปืน ยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ จึงเดินทางไปที่เหตุเกิด บริเวณริมแม่น้ำป่าสัก คอสะพานวัดหัวหิน หมู่ 5 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรายงาน พล.ต.ต. โชคชัย งามวงศ์วงศ์ ผบก. ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ ภูวดิษ ชนะคชภัทร์ รอง ผบก .ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ วิโรจน์ วังวล ผกก.สภ. ท่าเรือ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ท่าเรือ อัยการ แพทย์เวรโรงพยาบาลท่าเรือ และ เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ จุดท่าเรือ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบเป็นโพรงหญ้าภายในหลุมพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 รายทราบชื่อ นายมงกุฎ ทองชุม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 8 9 / 165 ถนนพหลโยธินเมืองสระบุรี ต. ปากเพรียว อ.เมือง จ. สระบุรี สภาพสวมใส่เสื้อคอกลมสีดำกางเกงยีนส์สีน้ำเงินตรวจสอบพบถูกยิงเข้าที่ราวนมขวา 2 นัด บริเวณหน้าท้อง 1 นัด ภายในมือขวายังกำปืนขนาด .38 เจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลท่าเรือเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบลายนิ้วมือและตรวจสอบบาดแผล เพื่อเก็บหลักฐาน
พ.ต.อ วิโรจน์ วังวลผกก.สภ.ท่าเรือ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต นั้นเมื่อช่วงสายได้ไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนาย นายคงศักดิ์ วงคง อายุ 27 ปี (สาวประเภท2) อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 4 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 4 นัดถูกบริเวณท่อนแขนและขาได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิด บริเวณปากซอยวัดยางนม ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ. ท่าเรือพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ได้เดินทางไปตรวจสอบและ ได้วิทยุสกัดจับและติดตาม รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน หมายทะเบียน กท 6983 อยุธยา ของ นายมงกุฎ ผู้ก่อเหตุ และไปพบรถยนต์คันดังกล่าวขับออกจากจุดเกิดเหตุบนถนน วัดยางนม มุ่งหน้า สี่แยกวัดถลุงเหล็ก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตาม จนทัน จากนั้นรถยนต์ของนายมงกุฎ ได้ เสียหลักพุ่งตกลงไปข้างทาง แล้ว นายมงกุฎ จึงได้ทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปบริเวณพงหญ้าอยู่ตรงจุดเกิดเหตุจากนั้นได้ซ่อนตัวหลบอยู่ในหลุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังปิดล้อม นายมงกุฎ เห็นท่าไม่ดี จึงใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ยิงสวนเข้าไปทำให้ไปถูกผู้ตาย จนเสียชีวิต
ส่วนสาเหตุที่ นายมงกุฎไปก่อเหตุยิงนายคงศักดิ์ วงคง ที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านั้นคือผู้ตายได้ไปติดพันและรู้จักกับผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นสาวประเภทสอง คบหากันมา 1 ปีและเมื่อช่วงเช้าผู้ตายได้ทะเลาะกับผู้บาดเจ็บที่บ้านจากนั้นผู้บาดเจ็บได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีแดงหมายเลขทะเบียน ช 4802 อยุธยา ออกจากบ้านไป นายมงกุฎ จึงได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวไปจอดซุ่มอยู่หลังกำแพงวัดยางนม พอผู้บาดเจ็บขับขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมา นายมงกุฎ จึงได้ใช้อาวุธปืน. 38 ที่พกติดตัวมา ยิงใส่เข้าไป 4 นัดจนไปถูกผู้บาดเจ็บที่แขนและขา จำนวน 2 นัด และกระสุนอีก 2 นัดยังไปโดนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กันได้รับความเสียหาย หลังก่อเหตุได้ ขับรถเก๋งหลบหนีไป และยิงต่อสู้จนถูกวิสามัญ ดังกล่าว จากการตรวจสอบประวัติไม่ พบว่านายมงกุฎ ต้องโทษคดีใด และได้ลาออกจากราชการทหารบก มาหลายปีแล้ว ซึ่งทางตำรวจจะได้ทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บ ที่ถูกยิงและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมอย่างละเอียดอีกครั้งถึงสาเหตุ ก่อนให้เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติจังหวัดปทุมธานีต่อไป
พ.ต.อ วิโรจน์ วังวลผกก.สภ.ท่าเรือ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต นั้นเมื่อช่วงสายได้ไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนาย นายคงศักดิ์ วงคง อายุ 27 ปี (สาวประเภท2) อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 4 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 4 นัดถูกบริเวณท่อนแขนและขาได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิด บริเวณปากซอยวัดยางนม ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ. ท่าเรือพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ ได้เดินทางไปตรวจสอบและ ได้วิทยุสกัดจับและติดตาม รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน หมายทะเบียน กท 6983 อยุธยา ของ นายมงกุฎ ผู้ก่อเหตุ และไปพบรถยนต์คันดังกล่าวขับออกจากจุดเกิดเหตุบนถนน วัดยางนม มุ่งหน้า สี่แยกวัดถลุงเหล็ก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตาม จนทัน จากนั้นรถยนต์ของนายมงกุฎ ได้ เสียหลักพุ่งตกลงไปข้างทาง แล้ว นายมงกุฎ จึงได้ทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปบริเวณพงหญ้าอยู่ตรงจุดเกิดเหตุจากนั้นได้ซ่อนตัวหลบอยู่ในหลุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังปิดล้อม นายมงกุฎ เห็นท่าไม่ดี จึงใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ยิงสวนเข้าไปทำให้ไปถูกผู้ตาย จนเสียชีวิต
ส่วนสาเหตุที่ นายมงกุฎไปก่อเหตุยิงนายคงศักดิ์ วงคง ที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านั้นคือผู้ตายได้ไปติดพันและรู้จักกับผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นสาวประเภทสอง คบหากันมา 1 ปีและเมื่อช่วงเช้าผู้ตายได้ทะเลาะกับผู้บาดเจ็บที่บ้านจากนั้นผู้บาดเจ็บได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีแดงหมายเลขทะเบียน ช 4802 อยุธยา ออกจากบ้านไป นายมงกุฎ จึงได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวไปจอดซุ่มอยู่หลังกำแพงวัดยางนม พอผู้บาดเจ็บขับขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมา นายมงกุฎ จึงได้ใช้อาวุธปืน. 38 ที่พกติดตัวมา ยิงใส่เข้าไป 4 นัดจนไปถูกผู้บาดเจ็บที่แขนและขา จำนวน 2 นัด และกระสุนอีก 2 นัดยังไปโดนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กันได้รับความเสียหาย หลังก่อเหตุได้ ขับรถเก๋งหลบหนีไป และยิงต่อสู้จนถูกวิสามัญ ดังกล่าว จากการตรวจสอบประวัติไม่ พบว่านายมงกุฎ ต้องโทษคดีใด และได้ลาออกจากราชการทหารบก มาหลายปีแล้ว ซึ่งทางตำรวจจะได้ทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บ ที่ถูกยิงและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมอย่างละเอียดอีกครั้งถึงสาเหตุ ก่อนให้เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติจังหวัดปทุมธานีต่อไป