วันนี้ (24 มิ.ย.62) ที่ห้องประชุมเพลินอารมณ์ โรงแรมเพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ แคมป์ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ นายสันติ ทองวิลาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เปิดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ความเข้าใจด้านปิโตรเลียมแก่เยาวชน (ท่องโลกปิโตรเลียม) ประจำปี 2562 ซึ่งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน จัดขึ้น เพื่อให้เยาวชนได้มีความรู้ ความเข้าใจในด้านพลังงาน โดยเฉพาะเรื่องปิโตรเลียมอย่างถูกต้อง และสามารถเป็นตัวแทนในการเผยแพร่ความรู้ต่อไปยังบุคคลอื่นในสังคมได้ ทั้งยังมุ่งเน้นให้เยาวชนได้เข้าใจถึงคุณค่าของทรัพยากรปิโตรเลียม ประโยชน์ในการอนุรักษ์พลังงาน และแนวทางการอนุรักษ์พลังงานในชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปสู่การสร้างค่านิยมด้านการอนุรักษ์พลังงานที่ถูกต้องต่อไป โดยมีนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 และ 5 จากโรงเรียนเมืองแกพิทยาคม,โรงเรียนสตึก, โรงเรียนสะแกพิทยาคม,โรงเรียนร่อนทองพิทยาคม,โรงเรียนสมเสม็ดวิทยา อ.สตึก ,โรงเรียนคูเมืองวิทยา อ.คูเมือง ,โรงเรียนแคนดงพิทยาคม,โรงเรียนดงพลองพิทยาคม อ.แคนดง ,โรงเรียนพุทไธสง อ.พุทไธสง และ โรงเรียนกู่สวนแตงพิทยาคม อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จำนวน 100 คนเข้าร่วม ทั้งนี้ กิจกรรมในงาน จะมีทั้งการบรรยายทางด้านวิชาการ น.ส.จุฬาภรณ์ เชื้อไทย หัวหน้ากลุ่มช่วยอำนวยการและประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ , พ่อคำเดื่อง ภาษี ประธานคณะกรรมการปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดบุรีรัมย์ และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านพลังงาน เพื่อเป็นการปูพื้นฐานความรู้ความเข้าใจเรื่องปิโตรเลียมและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดกิจกรรมสันทนาการ เล่นเกมส์ ที่ได้มีการสอดแทรกความรู้เรื่องปิโตรเลียมและพลังงาน รวมถึงการทำกิจกรรมกลุ่มในการนำเสนอผลงาน เพื่อใช้เป็นต้นแบบในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านปิโตรเลียม และนิทรรศการด้านพลังงานปิโตรเลียม นายสันติ กล่าวว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 14 แล้ว เพื่อเปิดโลกทัศน์ใหม่แก่เยาวชน ให้มีการเรียนรู้นอกห้องเรียน รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้รับฟังความรู้ และประสบการณ์ตรงจากวิทยากร โดยมีการแลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ที่มาจากต่างโรงเรียนโดยเฉพาะด้านปิโตรเลียม ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน เพื่อนำไปสู่การมีส่วนร่วมในการสร้าง และรักษาความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคต ทั้งการใช้อย่างประหยัดและใช้อย่างรู้คุณค่า เพราะน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติ เป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดเลย ไม่สามารถสร้างใหม่ได้ ใช้มากก็สิ้นเปลืองมาก “ สำหรับ จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีปิโตรเลียมอยู่ใต้ดิน ซึ่งก่อนหน้านี้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติฯ ได้อนุมัติให้บริษัทปิโตรเลียมจากประเทศจีน มาทำการสำรวจปิโตรเลียมใน จ.บุรีรัมย์ โดยใช้เวลาในการสำรวจนานถึง 9 ปี และพบก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ อ.แคนดง แต่พบในปริมาณที่น้อยเกินไป จนไม่สามารถนำขึ้นมาผลิตใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งตอนนี้ระยะเวลาสัมปทานการสำรวจปิโตรเลียมได้หมดลงแล้ว และได้ให้ยุติการดำเนินงานทุกอย่างลงโดยสิ้นเชิง ในอนาคตกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติฯ จะทำการเปิดสำรวจใหม่อีกครั้ง หากถึงตอนนี้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น เทคนิคการขุดเจาะดีขึ้น มีเทคนิคใหม่ๆ อาจจะได้เห็นน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ อันมหาศาลบนแผ่นดินบุรีรัมย์” นายสันติ กล่าว และว่า “ที่ผมยกเรื่องขุดพบก๊าซธรรมชาติ มาเล่าให้น้องๆฟัง เพื่อชี้ให้เห็นว่าบุรีรัมย์มีทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีค่ามหาศาลอยู่ใต้ผืนดิน ซึ่งน้องๆก็อยากจะรู้ว่าปิโตรเลียม ที่ว่านี้มีมาอย่างไร ก่อเกิดมาอย่างไร นานกี่ล้านปีแล้ว ภูมิประเทศ สภาพทางชั้นหิน หรือธรณีวิทยาของเมืองไทย หรือภาคอีสานเราเป็นอย่างไร เมื่อสำรวจพบแล้ว มีวิธีการขั้นตอนอย่างไร จนนำมาสู่ปั้มน้ำมัน หรือมาเป็นเชื้อเพลิงเติมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่เราใช้กันทุกวันนี้ ซึ่งวิทยากรจะไขข้อข้องใจเหล่านี้ เพื่อให้น้องๆทุกคนได้ทราบ เพื่อนำข้อมูลไปบอกต่อคนอื่นให้ทราบ และจะได้ช่วยกันประหยัด ใช้อย่างรู้คุณค่าต่อไป” นายสันติ กล่าว