“ปตท.”รับยุคดิจิทัลเต็มสูบ รุกสร้างมูลค่า เตรียมนำงานวิจัยต่อยอดสร้างธุรกิจเพิ่มมูลค่าผ่านศูนย์บ่มเพาะสตาร์อัพที่ อ.วังน้อย เปรียบนำงานบนหิ้งขึ้นวางขายในห้างสรรพสินค้า ลั่น ปตท.พร้อมเป็นหัวหอกหลักด้านเงินทุน พร้อมจับมือภาคเอกชนร่วมมือกระทรวงอุตสาหกรรมปรับเปลี่บยสู่ยุค 4.0 รับการค้ายุคใหม่ที่แข่งขันกันรุนแรง นายวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่ เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)เปิดเผยระหว่างการนำสื่อมวลชนศึกษาดูงานการจัดการเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ท ซิตี้) และโครงสร้างพื้นฐานที่สาธารณรัฐออสเตรีย ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญมากในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต และไลฟ์สไตล์ของประชาชน ทำให้ ปตท.ให้ความสำคัญในการพัฒนาวิจัยและค้นคว้านวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ โดยจะปรับเปลี่ยนผลงานวิจัยของปตท.ที่สถาบันนวัตกรรม ปตท.ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ปตท.ได้ทำการวิจัยไว้มากมาย นำมาต่อยอดพัฒนา เพื่อให้เป็นผลงาน และผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง รวมถึงยังจะผลักดันให้เป็นศูนย์บ่มเพาะธุรกิจใหม่ๆ หรือสตาร์ทอัพด้วย “เราต้องนำผลงานวิจัยที่ประเทศไทยมีมาต่อยอด สร้างธุรกิจใหม่ สร้างมูลค่า เปรียบเสมือนกับนำงานที่วางไว้บนหิ้งมาขึ้นห้างสรรพสินค้า เพราะงานวิจัยเหล่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อยอดพัฒนา เพื่อนำมาปรับเปลี่ยนธุรกิจ หรือทรานฟอร์มธุรกิจของ ปตท.ด้วย ขณะเดียวกัน ปตท.ต้องร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)มหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อคัดเลือกงานวิจัยที่มีอยู่มาต่อยอดพัฒนา เพื่อประเทศไทย แต่การนำงานวิจัยมาต่อยอดนั้นต้องมีผู้นำในการดำเนินการ มีเงินทุน หากไม่มีผู้นำ ผลงานวิจัยก็จะขึ้นหิ้งเช่นเดิม เพราะฉะนั้น ปตท.จะพยายามเป็นผู้นำหลัก แต่ต้องการทุกภาคส่วนเข้ามาส่วนร่วม เพื่อผลักดันให้เกิดขึ้นจริง โดยตั้งเป้าหมายว่าการผลักดันงานวิจัยครั้งนี้จะมีความชัดเจนภายในปีนี้" นอกจากนี้ ปตท.ยังร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม จัดทำแพลตฟอร์ม อุตสาหกรรม 4.0 โดยนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ มาใช้ในกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทในเครือบริษัท ปตท. ผลิตและสำรวจปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ ปตท.สผ.โดยจะนำหุ่นยนต์มาช่วยงานขุดเจาะใต้น้ำ คาดว่าในช่วงไตรมาส3ของปี 2563 จะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตามการร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมไม่ได้มีเพียง ปตท.หน่วยงานเดียว แต่มีเอกชนอื่นๆ อีก 50 ราย เพื่อมาร่วมกันขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนภาคอุตสาหกรรมให้เป็นยุค 4.0 เพราะหากไม่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต ไม่นำระบบอัตโนมัติมาใช้ ต้นทุนการผลิตของประเทศ อาจแข่งขันไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถผลักดันให้ประเทศไทย เข้าสู่ยุค4.0 ได้เช่นกัน