“อาหาร คือ ชีวิต ทุกวันนี้เรากินข้าววันละ 3 มื้อ อีก 5 ปีข้างหน้าเราอาจจะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ เปลี่ยนรถ แต่เราก็ยังต้องกินข้าวอยู่” เพราะความมั่นคงทางอาหาร คือหนึ่งปัจจัยสำคัญของความมั่นคงในชีวิต ศิริวิมล กิตะพาณิชย์ จึงเลือกที่จะวางใบปริญญาบัตรด้านนิเทศศาสตร์ที่เธอหอบข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากประเทศออสเตรเลีย เพื่อเริ่มต้นการทำงานในอาชีพ ‘เกษตรกร’ โดยมีครอบครัวเป็นแรงผลักดันและสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง “เราอยากทำงานกับชุมชน ก็เลยคิดว่าไปอยู่ในหมู่บ้านสักหมู่บ้านหนึ่งแล้วก็สอนภาษาอังกฤษเขา เพราะนั่นคือองค์ความรู้ที่เรามี แต่พอได้คุยกับคุณพ่อ คุณพ่อบอกว่าสิ่งที่เราอยากทำเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าลืมว่าเราต้องไม่ไปเป็นภาระให้กับใคร และจริงๆ ศักยภาพของเราอาจทำได้มากกว่านั้น เราจึงกลับไปค้นหาและทบทวนสิ่งที่คุณพ่อพูดในวันนั้น มันทำให้เราพบว่าเครื่องมือที่จะนำพาให้ชุมชนมีความเข้มแข็งได้ คือ เกษตรอินทรีย์” ศิริวิมล เริ่มต้นจากการเข้าร่วมอบรมโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาท เพื่อเรียนรู้วิถีและการดำเนินชีวิตในการทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน จากนั้น จึงมุ่งหน้าเดินทางไปยังอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เพื่อพลิกฟื้นผืนดินว่างเปล่าของครอบครัวสู่การทำแปลงเกษตรอินทรีย์ และชักชวนให้ชาวบ้านในพื้นที่นั้นหันมาเปลี่ยนจากวิถีเกษตรเคมีสู่การทำเกษตรอินทรีย์ แต่ก้าวแรกของเธอกลับถูกปฏิเสธ “เริ่มแรกไม่มีใครเห็นด้วย เราจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการด้วยการทำให้เขาเห็น พอได้ผลผลิตเราก็แบ่งปันให้เขาได้ลองชิมดูว่ารสชาติมันต่างกันกับการใช้เคมียังไง แลกเปลี่ยนวิธีการดูแลในแบบของเรากับของเขา เขาได้เรียนรู้และได้เห็นว่าเราทำอะไร อย่างไร เขาก็เริ่มมีใจที่อยากจะทำเหมือนกับเรา” จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการเพียงแค่ถ่ายทอดความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ให้กับชาวบ้าน แต่เมื่อถูกถามถึง ‘ตลาดรับซื้อ’ ทำให้ศิริวิมล ต้องหันมาวางแผนบริหารจัดการระบบงานใหม่ จุดนี้เองจึงทำให้เธอคิดต่อยอดสู่การทำ “ไร่รื่นรมย์” ให้เป็น ‘ไร่เกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร’ ที่เป็นทั้งแหล่งเพาะปลูกในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ ร้านอาหารที่นำผลผลิตในฟาร์มและผลผลิตที่รับซื้อจากชาวบ้านในเครือข่ายมาแปรรูป และยังเป็นสถานที่เรียนรู้ดูงานการทำเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร รวมถึงยังเป็นที่พักสำหรับผู้ที่สนใจเข้ามาท่องเที่ยวและศึกษาดูงานในไร่แห่งนี้อีกด้วย “สิ่งที่สำคัญในการทำเกษตร คือ เราต้องวิเคราะห์ตัวเองให้ได้ก่อน จุดแข็ง จุดอ่อนของเราคืออะไร แล้วเราจะบริหารจัดการมันอย่างไร การมาเข้าคอร์สที่นี่ หลายๆ คนค้นพบว่าตัวเขาเองไม่เหมาะที่จะเป็นเกษตรกร แต่เขาสามารถที่จะต่อยอดผลผลิต ต่อยอดเรื่องการตลาด จากเกษตรกรในพื้นที่ของเขาได้ ไม่ใช่แค่เรื่องของการเพาะปลูก แต่ยังเป็นวิธีการต่อยอดในเชิงสร้างสรรค์ ทำให้ทุกคนมีความชัดเจนในตัวเองมากขึ้น และยังได้สร้างพันธมิตรกับคนที่มีอุดมการณ์คล้ายคลึงกัน ซึ่งเป้าหมายหลักของเรา ก็คือ ต้องการสร้างตลาดอินทรีย์ที่เข้มแข็งและยั่งยืน เพราะถ้าระบบแข็งแรง วันหนึ่งถ้าไม่มีเรา ชุมชนก็ยังไปต่อได้” รายการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี เรื่อง ธุรกิจเกษตรเชิงสร้างสรรค์ ทางเลือกเพื่อความยั่งยืน รายการ ‘เพื่อนคู่คิด’ นำออกอากาศเผยแพร่ทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 33 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม 2562 สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เว็บไซต์ www.bangkokbank.com/puankookit และ www.facebook.com/puankookit