วันที่ 21 มิ.ย.นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์และอดีตประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น (ป.ป.ช.)ชี้แจงในการประชุมสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ใหม่ถึงกรณีการยืมทรัพย์สินมีค่าเช่นนาฬิกาหรูของเพื่อนว่าไม่จำเป็นต้องชี้แจงบัญชีทรัพย์สิน หนี้สินต่อป.ป.ช. ว่าถ้าตีความตามคำพูดของเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.หรือว่าต่อไปนี้การยืมทรัพย์สินมีค่าเช่นนาฬิกาหรูหรือรถหรูของเพื่อนมาใช้ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน เพราะต่อไปนี้ป.ป.ช.ไม่สามารถตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน หนี้สินของใครได้ หากบุคคลนั้นอ้างว่าทรัพย์สินที่ตรวจพบเป็นการยืมเพื่อนมาก็เท่ากับตั้งบรรทัดฐานไว้แล้วในที่สุดก็ตรวจสอบเอาผิดใครไม่ได้  เรื่องการใช้ช่องทางทุจริต หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีป.ป.ช.อีกต่อไป เพราะถือว่าไม่มีหน้าที่และไม่จำเป็นต้องตรวจสอบในเรื่องบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อไป              “แต่หากเปรียบเทียบกับในอดีตกรณีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่พบว่ามีเงินงอกบัญชี50 ล้านบาท แต่กลับถูกป.ป.ช.ชี้ว่ามีความผิดต้องเว้นวรรคทางการเมือง หากเปรียบกับกรณีนาฬิกาหรูรวมกันหลาย 10 เรือนมีมูลค่านับ100 ล้านบาท แต่ป.ป.ช. กับยื้อคดีแล้วบอกไม่ผิด ถือเป็นการตั้งบรรทัดฐานใหม่ที่มีผลในการทำลายองค์กรตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญอย่างป.ป.ช.ลงไปอย่างน่าเสียดาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องการันตีผลงานของป.ป.ช.ว่าควรมีต่อไปหรือไม่ สำหรับผมเห็นว่าหากเป็นเช่นนี้ก็ควรยุบองค์กรทิ้งเพื่อไม่ต้องเปลืองภาษีงบประมาณแผ่นดินอีกต่อไป”นายวิลาศกล่าว