วันที่ 20 มิ.ย.62 ที่ บก.ปอท.พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก บก.ปอท.ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีมีหญิงสาวคนหนึ่ง โพสต์ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าทำกระเป๋าหรูหาย.. แล้ว"นวย” ซึ่งเป็นกรรมกรก่อสร้าง เก็บกระเป๋าที่หายได้และส่งคืนให้เธอ โดยโพสต์เฟซบุ๊กบอกเล่าเรื่องราว หลังจากที่เธอทำกระเป๋าแบรนด์หรูหล่นหาย ปรากฏว่ามีคนเก็บไว้ได้แล้วส่งคืนทางไปรษณีย์ โดยของข้างในกระเป๋าอยู่ครบ ขาดแค่เงินเพียง 200 บาท เท่านั้น ที่หายไป ส่วนผู้ที่เก็บกระเป๋าไว้ได้แล้วส่งคืน ใช้ชื่อว่า ‘นวย’ เขียนข้อความในกระดาษ ระบุว่า “ผมเจอตกที่กำแพง ผมเป็นคนดี แต่ผมจน ผมขอค่าเหล้า 1 ขวด ค่าไปรษณีย์ ค่าเสียเวลา 200 ไม่รู้ว่าใครคือผม ผมสบาย ปิดทองหลังพระ นวย” ต่อมาหญิงสาวดังกล่าวยังได้โพสต์ยืนยันอีกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยอ้างว่าสามารถติดต่อ “นวย” ทางโทรศัพท์ได้ จนมีเสียงเรียกร้องจากชาวเน็ตให้พา”นวย” มาปรากฏตัวต่อสาธารณชน เพื่อคลายข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เนื่องจากหญิงสาวเจ้าของโพสต์เป็นแม่ค้าออนไลน์ อาจมีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝง จากนั้นชาวเน็ตได้มีการแชร์เรื่องราวมากมาย จนเกิดเป็นกระแสดราม่า จนโลกโซเชียลสงสัยตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง ล่าสุดบัญชีเฟซบุ๊ก ดังกล่าวได้ปิดไปแล้ว ซึ่งในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นที่สนใจของประชาชน และอาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ สร้างความสับสนในสังคม พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ขวัญชัย พัฒรักษ์ ผกก.3 บก.ปอท. สืบสวนสอบสวน กรณีดังกล่าว จนทราบว่าเรื่องราวดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริง จึงมอบหมายให้ พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.ออกหมายเรียกหญิงสาวเจ้าของโพสต์กระเป๋าหาย ให้มาพบพนักงานสอบสวนมาพบในสัปดาห์หน้า เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ทั้งนี้การกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (1)โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา สุดท้าย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ได้ฝากเตือนประชาชนที่นำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีเจตนาทุจริต และอาจเกิดความเสียหายกับประชาชน เพื่อมุ่งหวังผลบางประการ ทั้งในเรื่องผลประโยชน์หรือความสนุกคึกคะนอง อาจเข้าข่ายความผิดที่จะถูกดำเนินคดีตามฐานความผิดดังกล่าวได้ จะมาอ้างที่หลังว่าไม่รู้กฎหมาย หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์คงไม่ได้ เพราะกฎหมายบัญญัติไว้อย่างชัดเจน