"เคทีซี" เปิดแผนครึ่งปีหลัง ลุยเปิดตัวสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์ ขยายฐานลูกค้าใหม่ ดันเป้าสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งปีโต 10%
นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้อำนวยการ-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า แผนการขยายฐานลูกค้าของเคทีซีในครึ่งปีหลังจะรุกธุรกิจเข้มข้นขึ้น ด้วยการมุ่งเน้นคุณภาพลูกหนี้และการเติบโตอย่างยั่งยืนบน 4 แกนหลักคือ 1) มุ่งปล่อยสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ 2) รักษาและผูกสัมพันธ์ระยะยาวกับฐานสมาชิก 3) พัฒนาคุณสมบัติและบริการสินเชื่อ “เคทีซี พราว” ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชอบความสะดวก รวดเร็วในยุคดิจิทัล 4) สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า (Customer Engagement) เพื่อเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับแนวทางการให้สินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์นั้น เคทีซีจะมุ่งขยายความร่วมมือกับธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงและมีความต้องการในตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยได้นำร่องเปิดตัวสินเชื่อเพื่อการศึกษา (Education Loan) ร่วมกับสถาบันสอนภาษา 4 สถาบัน รวม 44 สาขา ได้แก่ วอลล์สตรีท อิงลิช (Wall Street English) แชมป์ อิงริช (Champ EngRish) แลงเกวจ เอ็กซ์เพรส (Language Express) และอินสไปร์ อิงลิช (Inspire English) เพื่อให้สินเชื่อกับสมาชิกที่ต้องการเงินทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพความรู้กับสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ ผู้สนใจสามารถสมัครและยื่นเอกสารที่สถาบันนั้นๆ ได้โดยตรง และสามารถทราบผลการอนุมัติภายใน 1 ชั่วโมง โดยสมาชิกจะได้รับอัตราดอกเบี้ยฯ พิเศษ 0% นานสูงสุด 24 เดือน
ทั้งนี้ จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคในฐานข้อมูลบริษัทพบว่า กลุ่มลูกค้าที่ต้องการพัฒนาตนเองเพื่อสร้างความก้าวหน้าในอาชีพมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และกลุ่มคนเหล่านี้ยังมีเกณฑ์ที่รายได้จะสูงขึ้นในอนาคต การเพิ่มปริมาณลูกค้าในกลุ่มนี้จึงนอกจากจะส่งผลดีกับค่าเฉลี่ยการใช้วงเงินสินเชื่อโดยรวมของบริษัทแล้ว การกู้ยืมแบบมีวัตถุประสงค์ยังเป็นที่มั่นใจได้ว่า พฤติกรรมการชำระคืนของผู้บริโภคกลุ่มนี้จะมีวินัยมากกว่าการกู้ยืมแบบทั่วไป ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับเคทีซีในระยะยาว นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะขยายจำนวนพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจการศึกษาให้มากขึ้น รวมทั้งจะมีการออกสินเชื่อเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ออกมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
“หลังจากรุกขยายสินเชื่อวัตถุประสงค์เพิ่มขึ้น จะทำให้เคทีซีมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าใช้สินเชื่อส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เป็นเพิ่มขึ้น 10% ภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 5%” นางสาวพิชามน กล่าว
นางสาวพิชามน กล่าวถึงแนวโน้มสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารในช่วงครึ่งหลังว่า เชื่อว่าจะขยายตัวสูงกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งคาดว่ายอดคงค้างของสินเชื่อส่วนบุคคลในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวได้กว่า 10% มากกว่าครึ่งปีแรกที่คาดว่าจะเติบโตได้ 8% เนื่องจากตามปกติในช่วงครึ่งปีหลังจะมีความต้องการใช้สินเชื่งส่วนบุคคลเพื่อการจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงที่มีความต้องการใช้สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มสูงขึ้นมาก และบริษัทมั่นใจว่าการขยายตัวของสินเชื่อส่วนบุคคลในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/62 บริษัทมียอดสินเชื่อส่วนบุคคลคงค้างอยู่ที่ 9.67 แสนล้านบาท
ด้านเป้าหมายการขยายฐานลูกค้าใหม่ของกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคลในปีนี้บริษัทตั้งไว้ที่ 177,000 บัญชี โดย 5 เดือนแรกมีฐานลูกค้าใหม่แล้ว 60,000 บัญชี อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าหลักเกณฑ์การควบคุมสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนดให้มีบัตรได้ไม่เกิน 3 บัตรต่อรายนั้น ส่งผลกระทบและสูญเสียโอกาสในการหาลูกค้าใหม่ และเบื้องต้นจากการประเมินของบริษัท พบว่าทำให้ลูกค้าใหม่ลดลงราว 5-10% ซึ่งใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมที่ลดลงในระดับเดียวกับบริษัท
ทั้งนี้ จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคในฐานข้อมูลบริษัทพบว่า กลุ่มลูกค้าที่ต้องการพัฒนาตนเองเพื่อสร้างความก้าวหน้าในอาชีพมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และกลุ่มคนเหล่านี้ยังมีเกณฑ์ที่รายได้จะสูงขึ้นในอนาคต การเพิ่มปริมาณลูกค้าในกลุ่มนี้จึงนอกจากจะส่งผลดีกับค่าเฉลี่ยการใช้วงเงินสินเชื่อโดยรวมของบริษัทแล้ว การกู้ยืมแบบมีวัตถุประสงค์ยังเป็นที่มั่นใจได้ว่า พฤติกรรมการชำระคืนของผู้บริโภคกลุ่มนี้จะมีวินัยมากกว่าการกู้ยืมแบบทั่วไป ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับเคทีซีในระยะยาว นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะขยายจำนวนพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจการศึกษาให้มากขึ้น รวมทั้งจะมีการออกสินเชื่อเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ออกมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
“หลังจากรุกขยายสินเชื่อวัตถุประสงค์เพิ่มขึ้น จะทำให้เคทีซีมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าใช้สินเชื่อส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เป็นเพิ่มขึ้น 10% ภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 5%” นางสาวพิชามน กล่าว
นางสาวพิชามน กล่าวถึงแนวโน้มสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารในช่วงครึ่งหลังว่า เชื่อว่าจะขยายตัวสูงกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งคาดว่ายอดคงค้างของสินเชื่อส่วนบุคคลในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวได้กว่า 10% มากกว่าครึ่งปีแรกที่คาดว่าจะเติบโตได้ 8% เนื่องจากตามปกติในช่วงครึ่งปีหลังจะมีความต้องการใช้สินเชื่งส่วนบุคคลเพื่อการจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงที่มีความต้องการใช้สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มสูงขึ้นมาก และบริษัทมั่นใจว่าการขยายตัวของสินเชื่อส่วนบุคคลในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/62 บริษัทมียอดสินเชื่อส่วนบุคคลคงค้างอยู่ที่ 9.67 แสนล้านบาท
ด้านเป้าหมายการขยายฐานลูกค้าใหม่ของกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคลในปีนี้บริษัทตั้งไว้ที่ 177,000 บัญชี โดย 5 เดือนแรกมีฐานลูกค้าใหม่แล้ว 60,000 บัญชี อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าหลักเกณฑ์การควบคุมสินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนดให้มีบัตรได้ไม่เกิน 3 บัตรต่อรายนั้น ส่งผลกระทบและสูญเสียโอกาสในการหาลูกค้าใหม่ และเบื้องต้นจากการประเมินของบริษัท พบว่าทำให้ลูกค้าใหม่ลดลงราว 5-10% ซึ่งใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมที่ลดลงในระดับเดียวกับบริษัท