เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณี มีข่าวเกี่ยวกับชาวบ้านหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน ถูกหลอก ตกเป็นเหยื่อแก๊งหลอกขาย บัตรพลังงาน อ้างว่า มีสรรพคุณสารพัดประโยชน์ รักษาโรค ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังมีข่าวลือว่า ในพื้นที่ อ.วังยาง จ.นครพนม มีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อ จนกระทั่งล่าสุด ได้พบมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อถูกหลอกขายบัตรพลังงาน เพื่อหวังนำมารักษาโรค จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบผู้เสียหาย คือ นางวงค์เดือน กมลเเก้ว อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 4 บ้านหนองบึง ต.ยอดชาด อ.วังยาง จ.นครพนม ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ มานานหลายปี นอกจากนี้ยังพบ ว่ามี นางสมภาร เเสงสุริวงค์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ที่ 4 บ้านบึง ต.ยอดชาด อ.วังยาง จ.นครพนม มีอาการป่วยเป็นโรคปวดเมื่อย อีกรายที่ตกเป็นเหยื่อ โดยผู้เสียหาย ได้ นำบัตรพลังงาน มาโชว์ให้ดู เบื้องต้น ระบุว่า มีคนมาตระเวน ขาย ในราคา ใบละ 1,500 บาท อ้าง สรรพคุณ รักษาสารพัดโรค จึงหลงเชื่อ
เบื้องต้นทางด้าน ว่าที่ร้อยตรีเอกวัฒนา คงคาน้อย นายอำเภอวังยาง จ.นครพนม ได้ สั่งการให้ นายอัคเดช นาคสุวรรณ ปลัดอำเภอวังยางหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ประสานงานร่วมกับ ร.ต.อ.ลิขิต ห่อหุ้มดี รอง สวป.สภ.วังยาง พร้อมชุดสืบสวน สภ.วังยาง เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อ.วังยาง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ตรวจสอบ เก็บหลักฐาน รวบรวมพยานหลักฐานหาที่มา พร้อมแนะนำทำความเข้าใจชาวบ้าน อย่าหลงเชื่อ พร้อมประชาสัมพันธ์หากใครที่ตกเป็นเหยื่อ ให้แจ้งกับผู้นำท้องถิ่น รายงานไปยังอำเภอ และจะมีการตรวจสอบหากเข้าข่ายผิดกฎหมาย หรือมีผู้เสียหาย จะมีการ รวบรวมพยานหลักฐาน ให้ทางตำรวจ ดำเนินคดีทันที โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ยังมีชาวบ้าน ในพื้นที่อีกหลายรายตกเป็นเหยื่อ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
จากการสอบถาม นางวงค์เดือน กมลเเก้ว อายุ 70 ปี ผู้เสียหาย ระบุว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งลำไส้มานานหลายปี และเคยเข้ารับการรักษาผ่าตัดที่โรงพยาบาลสกลนคร เมื่อปี 2561 อาการทรงตัว จึงหาทางรักษามาตลอด ล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ มีตัวแทนชาวบ้าน รายหนึ่ง มาตระเวนแนะนำสรรพคุณบัตรพลังงาน และขายให้ในราคาใบละ 15,000 บาท จึงหลงเชื่อ อยากหายจากโรค เพราะเชื่อว่ามีสรรพคุณรักษาโรคได้ พร้อมแนะนำวิธีการใช้ คือ นำน้ำดื่ม ใส่แก้ว หรือขวดน้ำ วางทับบนบัตร ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที ก่อนดื่ม จะช่วยรักษาโรคได้ หรือนำมาวางไว้บนจุดที่ปวดเมื่อย จะมีอาการดี ขึ้น และยังมีคุณสมบัตรพิเศษ ใส่ติดรถไว้ สามารถประหยัดน้ำมัน อีกด้วย แต่ได้ทดลองทำตามคำแนะนำคน ขายและนำน้ำมารับประทานแล้วหลาย ครั้ง แต่ไม่มีวี่แววว่าดีขึ้น พอทราบข่าวภายหลัง จึงเกรงเกิดอันตราย จึงงดทำการรักษา
ปิยพงศ์ โพชราช (โบโบ้) ศูนย์ข่าวอีสานบน นครพนม
เบื้องต้นทางด้าน ว่าที่ร้อยตรีเอกวัฒนา คงคาน้อย นายอำเภอวังยาง จ.นครพนม ได้ สั่งการให้ นายอัคเดช นาคสุวรรณ ปลัดอำเภอวังยางหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ประสานงานร่วมกับ ร.ต.อ.ลิขิต ห่อหุ้มดี รอง สวป.สภ.วังยาง พร้อมชุดสืบสวน สภ.วังยาง เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อ.วังยาง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ตรวจสอบ เก็บหลักฐาน รวบรวมพยานหลักฐานหาที่มา พร้อมแนะนำทำความเข้าใจชาวบ้าน อย่าหลงเชื่อ พร้อมประชาสัมพันธ์หากใครที่ตกเป็นเหยื่อ ให้แจ้งกับผู้นำท้องถิ่น รายงานไปยังอำเภอ และจะมีการตรวจสอบหากเข้าข่ายผิดกฎหมาย หรือมีผู้เสียหาย จะมีการ รวบรวมพยานหลักฐาน ให้ทางตำรวจ ดำเนินคดีทันที โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ยังมีชาวบ้าน ในพื้นที่อีกหลายรายตกเป็นเหยื่อ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
จากการสอบถาม นางวงค์เดือน กมลเเก้ว อายุ 70 ปี ผู้เสียหาย ระบุว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งลำไส้มานานหลายปี และเคยเข้ารับการรักษาผ่าตัดที่โรงพยาบาลสกลนคร เมื่อปี 2561 อาการทรงตัว จึงหาทางรักษามาตลอด ล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ มีตัวแทนชาวบ้าน รายหนึ่ง มาตระเวนแนะนำสรรพคุณบัตรพลังงาน และขายให้ในราคาใบละ 15,000 บาท จึงหลงเชื่อ อยากหายจากโรค เพราะเชื่อว่ามีสรรพคุณรักษาโรคได้ พร้อมแนะนำวิธีการใช้ คือ นำน้ำดื่ม ใส่แก้ว หรือขวดน้ำ วางทับบนบัตร ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที ก่อนดื่ม จะช่วยรักษาโรคได้ หรือนำมาวางไว้บนจุดที่ปวดเมื่อย จะมีอาการดี ขึ้น และยังมีคุณสมบัตรพิเศษ ใส่ติดรถไว้ สามารถประหยัดน้ำมัน อีกด้วย แต่ได้ทดลองทำตามคำแนะนำคน ขายและนำน้ำมารับประทานแล้วหลาย ครั้ง แต่ไม่มีวี่แววว่าดีขึ้น พอทราบข่าวภายหลัง จึงเกรงเกิดอันตราย จึงงดทำการรักษา
ปิยพงศ์ โพชราช (โบโบ้) ศูนย์ข่าวอีสานบน นครพนม