“CEO หญิงไทย”โชว์ความสำเร็จกลางเวที World Bank  สร้างโซลาร์ฟาร์ม36 แห่งแรก-ใหญ่สุดในอาเซียน เชื่อเปิดมิติใหม่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ลดภาวะโลกร้อน มั่นใจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม-มั่นคงด้านพลังงานประเทศชาติ วันที่ 19 มิ.ย. นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG ได้รับเกียรติเป็นผู้ร่วมอภิปรายในงาน “Innovate 4 Climate” ภายใต้หัวข้อ “New Climate Finance Architecture:Learning from the Past to Achieve Deep Transformation” จัดโดย World Bank Group (ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและวิวัฒนาการ) ณ Marina Bay Sands Expo and Convention Centre, ประเทศสิงคโปร์ โดยนางวันดี กล่าวว่า ดิฉันเป็นผู้บุกเบิกและพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มเชิงพาณิชย์ รายแรกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน จากรัฐบาลสมัยที่ ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นรมว.พลังงาน มีนโยบายสนับสนุนด้านพลังงานหมุนเวียน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน รวมทั้งได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทุกประเภท (แสงอาทิตย์, น้ำ และ ลม) แต่ไม่มีบุคคลใดสนใจ แต่ดิฉันเห็นว่าพลังงานแสงอาทิตย์ถือเป็นพลังงานหมุนเวียน และเป็นพลังงานสะอาด ไม่มีมลภาวะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงเริ่มศึกษาและออกแบบBusiness Model โซลาร์ฟาร์มโดยเริ่มการลงทุนจากโครงการโซลาร์ฟาร์มแห่งแรกที่จังหวัดนครราชสีมา หรือโครงการโซลาร์ฟาร์ม (โคราช 1) เริ่มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และส่งเข้าระบบจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 เม.ย.53 ซึ่งในปัจจุบัน SPCG สามารถพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือที่เรียกว่า โซลาร์ฟาร์ม จำนวน 36 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า 260 เมกะวัตต์ อยู่ในพื้นที่ 10จังหวัด ของประเทศไทย มูลค่าลงทุนประมาณ 25,000 ล้านบาท นอกจากนี้ โครงการโซลาร์ฟาร์มทั้ง 36 แห่ง ยังสามารถช่วยลดสภาวะโลกร้อนเทียบเท่ากับลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศของโลกประมาณ 200,000 ตัน CO2ต่อปี  นางวันดี กล่าวต่อว่า ดิฉันเล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ และเริ่มศึกษาเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จึงได้จัดทำ Business Model ขึ้นมาด้วยความเชื่อมั่น การเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่มีข้อจำกัดอย่างมากในการหาสถาบันการเงินเพื่อสนับสนุนโครงการ เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่เคยมีผู้ใดทำมาก่อน ทำให้สถาบันการเงินไม่มีข้อมูลด้านความเสี่ยง จำเป็นต้องระดมความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับการป้องกันความเสี่ยงด้านการลงทุน จนกระทั่ง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นสถาบันการเงินที่ช่วยสนับสนุนทางด้านการเงินอัตราหนี้สินต่อทุนที่ 60:40 โดยเริ่มการลงทุนจากโครงการโซลาร์ฟาร์มแห่งแรกที่จังหวัดนครราชสีมา หรือโครงการโซลาร์ฟาร์ม (โคราช 1) เริ่มผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และส่งเข้าระบบจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 เม.ย.53            นางวันดี กล่าวต่อว่า  จากนั้น ธนาคารฯ ขอประเมินการดำเนินงานของโครงการโซลาร์ฟาร์มเป็นระยะเวลา 6 เดือนก่อนเริ่มพัฒนาโครงการที่ 2 ซึ่งผลปรากฎว่าใน 3 เดือนแรกการผลิตไฟฟ้าดีกว่าเป้ามากกว่า 30 % ธนาคารฯ จึงตัดสินใจสนับสนุนเงินลงทุนสำหรับการพัฒนาโครงการที่เหลือซึ่งต้องใช้เงินลงทุนกว่า 24,000 ล้านบาท ตลอดจนนำเงินกู้ Clean Technology fund มาร่วมให้กู้กับสถาบันการเงินอื่นๆอีก 6 แห่ง ภายใต้การจัดการของธนาคารกสิกรไทยจำกัด (มหาชน) ต่อมาบริษัทฯ ได้ควบรวมกับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และระดมเงินทุนจนประสบความสำเร็จ  อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ไม่ใช่หน้าที่ของใครเพียงคนเดียว หรือ บริษัทใดเพียงบริษัทเดียว แต่เป็นความรับผิดชอบที่ทุกคนต้องปฏิบัติเราต้องลงมือทำตั้งแต่วันนี้เพื่ออนาคตของเยาวชนรุ่นต่อไปในอนาคต