วันนี้ (18 มิ.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ได้ มีตัวแทนชาวบ้าน นำโดย นางสมรรัตน์ วารี อายุ 42 ปี กำนันตำบลนามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน และลูกหลานเยาวชน ออกมาเรียกร้อง ผ่าน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เขต 4 รวมถึงสื่อมวลชน เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ สะท้อน ปัญหาความเดือดร้อน ของชาวบ้าน ในพื้นที่ ไปยัง รัฐบาล และหน่วยงานเกี่ยวข้อง หลังทนทุกข์ มานานเกือบ 10 ปี กรณีปัญหาถนน สาย ที่เชื่อม จาก ถนนหนองญาติ กับ อ.นาแก จ.นครพนม เชื่อมไปยัง บ้านแหลมทอง ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ระยะทาง เกือบ 10 กิโลเมตร อยู่ในความดูแลรับผิดชอบ ของทางหลวงชนบท เกิดปัญหาชำรุดทรุดโทรม สภาพผิวการจราจร พัง ทั้งเป็นหลุมเป็นบ่อ มีปัญหาฝุ่นควัน และช่วงฝนตกกลายเป็นบ่อโคลน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ที่สัญจรไปมา กว่า 5 หมู่ บ้าน ได้รับผลกระทบ สัญจรไปมาลำบาก เคยเรียกร้องไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องมานาน เกือบ 10 ปี แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข จนกระทั่งรอความหวังจากการเลือกตั้ง มี ผู้แทนราษฎร ในพื้นที่ จึงได้ออกมาเรียกร้อง สะท้อนผ่านสื่อมวลชน ให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงรัฐบาล ที่ชาวบ้านรอคอยมานาน เร่งแก้ไข เนื่องจากผู้สัญจรไปมา กว่า 300 ครัวเรือน ต้องทนทุกข์ ในการเดินทางสัญจร ลูกหลานเยาวชน ที่สัญจรไปมา เดินทางไปเรียนหนังสือ ต้องทนกับสภาพหมอกควัน ฝุ่นโคลน หลุมบ่อ เสี่ยงอุบัติเหตุ โดยได้เรียกร้องไปยัง รัฐบาล ชุดใหม่ ให้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เร่งด่วน เพราะที่ผ่านมา ไร้หน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลแก้ไข อ้าง ขาดงบประมาณ นางสมรรัตน์ วารี อายุ 42 ปี กำนันตำบลนามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับปัญหาถนน ที่เชื่อมจาก เส้นทางหลัก หนองญาติ – นาแก เชื่อมไปยัง บ้านแหลมทอง ถือเป็นปัญหาความเดือดร้อน ที่ชาวบ้านทนทุกข์มานาน ร่วม 10 ปี เนื่องจาก หน่วยงานเกี่ยวข้อง ขาดงบประมาณ ซ่อมแซม นับวันยิ่งพังเสียหายมากขึ้น ระยะทาง เกือบ 10 กม. ทุกวันนี้ ต้องสัญจร ท่ามกลาง ถนนที่มีแต่ฝุ่น มีแต่หมอกควัน เป็นหลุมลึก ช่วงฤดูฝนมีแต่ดินโคลน แต่ต้องทน เพราะเลี่ยงไม่ได้ หากใช้เส้นทางอื่น ระยะทางไกล มาถึงวันนี้มีความหวัง หลังมีการเลือกตั้ง ส.ส. มีรัฐบาล จึงได้ ออกมาเรียกร้องผ่าน ผู้แทน รวมถึง สะท้อนผ่านสื่อ ให้รัฐบาลหาทางแก้ไข ด้าน นายสุภาเดช จิตไชโย อายุ 66 ปี ชาวบ้านแหลมทอง หมู่ 3 ต.นามะเขือ องปลาปาก จ.นครพนม เปิดเผยว่า ปกติตนสัญจร ขับรถจักรยานยนต์ ผ่านถนนเส้นนี้ทุกวัน เป็นเวลา เกือบ 10 ปี นับวันถนนยิ่งพังเสียหาย เป็นหลุม เป็นบ่อ มีปัญหาฝุ่นหมอกควันคลุ้ง เวลารถยนต์ วิ่งผ่าน ยิ่งช่วงฤดูฝน ยิ่งเดือดร้อน ทั้งดินโคลน เสี่ยงอุบัติเหตุ ลูกหลานสัญจรไปเรียน ชาวบ้าน เดินทางไปตัวเมือง รอความหวังมานานนับ 10 ปี ยังไม่มีการแก้ไข หลังมีรัฐบาล ฝากสะท้อนปัญหาไปยังนายกตู่ ให้หน่วยงานมาดูแลแก้ไข เร่งด่วน หากปล่อยไว้ จะส่งผลกระทบตามมา ไม่มีสิ้นสุด