เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (18 มิ.ย.62) ที่ สภ.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายรุจน์ รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายภัทรพงษ์ สิงห์แก้ว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 459 ม.3 ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น และนายทัศนัย จันทร์ศรี อายุ 27 ปี ชาว อ.ชนบท จ.ขอนแก่น พร้อมของกลางรถยนต์โตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ผบ-4318 ขอนแก่น และยาบ้า 5,731 เม็ด หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านไผ่สนธิกำลังร่วมฝ่ายทหารและเจ้าหน้าฝ่ายปกครองจับกุมตัวได้ ที่บริเวณด่านตรวจความมั่นคง บน ถ.มิตรภาพ ม.2 ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
นายรุจน์ รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่การตั้งด่านตรวจอยู่นั้น นายภัทรพงษ์ได้ขับรถยนต์ดังกล่าวเข้ามาในจุดตรวจด้วยท่าทีต้องสงสัยจึงทำการขอตรวจค้นและพบยาบ้าอยู่ในตัวของนายภัทรพงษ์ จำนวน 185 เม็ด จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวนก่อนที่ผุ้ต้องจะให้การรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจากนายทัศนัย
" เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมของนายทัศนัยและวางแผนจับกุมจนทราบว่านายทัศนัย จะเดินทางกลับมาที่ขอนแก่นด้วยรถยนต์โดยสาร เมื่อช่วงกลางดึกของของเมื่อวานที่ผ่านมา ( 17 มิ.ย.) กำลังเจ้าหน้าที้จึงวางกำลังเฝ้าจุดต่าง ๆ ภายใน บขส.บ้านไผ่ จนกระทั่งพบนายทัศนับลงมาจากรถโดยสาร และได้ว่าจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ไปส่งที่ อ.ชนบท กำลังเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด และจับกุมตัวได้ภายในบ้านพักที่ อ.ชนบท พร้อมของกลางยาบ้าดังกล่าว"
นายรุจน์ กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดรับมาจาก นายต่อ แต่ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ที่จังหวัดสระแก้ว เนื่องจากรู้จักกับนายต่อระหว่างที่ตนติดคุกอยุ่ด้วยกันที่เรือนจำเขาพริก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อพ้นคุกมาจึงยังติดต่อกันอยู่ เพื่อนำยาบ้ามาขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น
" ผู้ต้องหาทั้ง 2 มีพฤติกรรมค้ายาบ้ามาอยู่ใน พื้นที่ อ.บ้านไผ่ และ อ.ชนบท มานานแล้ว และเคยต้องโทษจำคุกที่เรือนจำเขาพริก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในคดีเกี่ยวจำหน่ายยาเสพติดประเภท1 หรือยาบ้า โดยเฉพาะนายทัศนัยเพิ่งพ้นโทษออกมาแต่ก็กลับมาขายอีก ซึ่งยาบ้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าตำรวจได้พบยาบ้าแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนซึ่งโดยปกติแล้วยาบ้าจะออกเป็นสีชมพูคุมด้วยยาบ้าเม็ดสีเขียว ซึ่งยาบ้าประเภทนี้จะเข้ามาทางจังหวัดสระแก้ว หรือทางฝั่ง สปป.ลาว แต่ยาบ้าแบบใหม่จะเป็นสีออกแดงเข้มกว่าและคุมด้วยยาบ้าสีเหลือง ซึ่งยาบ้าประเภทนี้ยังไม่ทราบว่าจะเข้ามาทางตอนไหนของประเทศไทย เพราะเพิ่งพบครั้งนี้ครั้งแรก"
นายรุจน์ รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่การตั้งด่านตรวจอยู่นั้น นายภัทรพงษ์ได้ขับรถยนต์ดังกล่าวเข้ามาในจุดตรวจด้วยท่าทีต้องสงสัยจึงทำการขอตรวจค้นและพบยาบ้าอยู่ในตัวของนายภัทรพงษ์ จำนวน 185 เม็ด จึงทำการควบคุมตัวมาสอบสวนก่อนที่ผุ้ต้องจะให้การรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจากนายทัศนัย
" เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมของนายทัศนัยและวางแผนจับกุมจนทราบว่านายทัศนัย จะเดินทางกลับมาที่ขอนแก่นด้วยรถยนต์โดยสาร เมื่อช่วงกลางดึกของของเมื่อวานที่ผ่านมา ( 17 มิ.ย.) กำลังเจ้าหน้าที้จึงวางกำลังเฝ้าจุดต่าง ๆ ภายใน บขส.บ้านไผ่ จนกระทั่งพบนายทัศนับลงมาจากรถโดยสาร และได้ว่าจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้ไปส่งที่ อ.ชนบท กำลังเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด และจับกุมตัวได้ภายในบ้านพักที่ อ.ชนบท พร้อมของกลางยาบ้าดังกล่าว"
นายรุจน์ กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดรับมาจาก นายต่อ แต่ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ที่จังหวัดสระแก้ว เนื่องจากรู้จักกับนายต่อระหว่างที่ตนติดคุกอยุ่ด้วยกันที่เรือนจำเขาพริก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อพ้นคุกมาจึงยังติดต่อกันอยู่ เพื่อนำยาบ้ามาขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น
" ผู้ต้องหาทั้ง 2 มีพฤติกรรมค้ายาบ้ามาอยู่ใน พื้นที่ อ.บ้านไผ่ และ อ.ชนบท มานานแล้ว และเคยต้องโทษจำคุกที่เรือนจำเขาพริก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในคดีเกี่ยวจำหน่ายยาเสพติดประเภท1 หรือยาบ้า โดยเฉพาะนายทัศนัยเพิ่งพ้นโทษออกมาแต่ก็กลับมาขายอีก ซึ่งยาบ้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าตำรวจได้พบยาบ้าแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนซึ่งโดยปกติแล้วยาบ้าจะออกเป็นสีชมพูคุมด้วยยาบ้าเม็ดสีเขียว ซึ่งยาบ้าประเภทนี้จะเข้ามาทางจังหวัดสระแก้ว หรือทางฝั่ง สปป.ลาว แต่ยาบ้าแบบใหม่จะเป็นสีออกแดงเข้มกว่าและคุมด้วยยาบ้าสีเหลือง ซึ่งยาบ้าประเภทนี้ยังไม่ทราบว่าจะเข้ามาทางตอนไหนของประเทศไทย เพราะเพิ่งพบครั้งนี้ครั้งแรก"