เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่18 มิถุนายน 2562 ที่ศาลปกครองจังหวัดยะลา ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา พ่อค้า แม่ค้า จาก จ.ปัตตานี กว่า 1 พัน คนได้เดินทางมาที่ศาลปกครอง จ.ยะลา ยื่นหนังสือเพื่อให้ศาลปกครองจังหวัดยะลาคุ้มครองชั่วคราวกรณีถูกไล่ที่ไม่ให้ขายของ และยังชูป้ายขอความเป็นธรรมกับเทศบาลจังหวัดปัตตานี หลังร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการแก้ไข สร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อค้า แม่ค้า มานานนับเดือน นางถนอมใจ แสงแก้ว ตัวแทนพ่อค้า แม่ค้า จ.ปัตตานี กล่าวว่า เนื่องจากทางเทศบาลปัตตานีต้องการที่คืนเพราะทางเทศบาลบอกว่าที่ตรงนี้เป็นที่ผ่อนผันแต่ว่ามันไม่ใช่เพราะว่าแม่ค้าอยู่ตรงนี้มานานแล้วอยู่กันมาร้อยกว่าปีแล้ว นี่คือถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ปู่ย่า ตายายตั้งแต่สมัยไหนกันแล้ว เทศบาลบอกว่าเขาจะขอคืนพื้นที่เพื่อปรับปรุง แต่เทศบาลไม่ให้แม่ค้าขายของอีกต่อไป และต้องการให้ย้ายไปตลาดยะรังตลาดใหม่ที่สร้างใหม่แต่แม่ค้าทุกคนไม่ต้องการ เพราะว่าไปแล้วขายไม่ได้กระทบชีวิตประจำวันของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นรถพ่วงข้าง รถเข็ญ แม่ค้า วินมอเตอร์ไซต์ ทุกอย่างกระทบหมดแม่ค้ารับไม่ได้จึงมาร้องเรียนกับศาลปกครอง มากันเป็นพัน ที่มาวันนี้ไม่มีประชาชนคนนอก แต่เป็นแม่ค้าหมด ที่เดือดร้อนจริงๆ และได้มาให้ศาลปกครองช่วย เนื่องจากทางเทศบาลมีข้อต่อต้านกับแม่ค้าว่าต้องไปที่ตลาดยะรังให้ได้ แต่แม่ค้าขอพื้นที่อื่นคือเป็นตลาดโต้รุ่งเก่าที่เคยอยู่มาก่อน แต่ทางเทศบาลโต้แย้งว่าถ้าไปตลาดโต้รุ่งเก่าต้องไปเฉพาะแม่ค้าขายผัก อย่างอื่นที่เป็นเนื้อหมู กุ้ง ปลา ทุกอย่างไม่นานก็ไปไม่ได้แล้ว ถามว่าตรงนั้นจะขายให้กับใคร คำว่าตลาดต้องมีทุกอย่างรวมกันแต่ทางเทศบาลก็ไม่เข้าใจ ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนมาทุกหน่วยงานแล้วแต่ก็ช่วยไม่ได้ เขาบอกว่าเป็นสิทธิของเทศบาลเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ แม่ค้ารับไม่ได้ที่เทศบาลเสนอมา นางถนอมใจ ยังเผยอีกว่าที่ผ่านมายังเคยไปร้องเรียนที่สำนักนายกรัฐมนตรีมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข เพราะเรื่องที่ส่งมาจะมาเงียบที่ปัตตานี ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี จะไม่รับเรื่อง ทิ้งลงถังขยะหมดไม่ได้ทำอะไรให้เลย ปฏิเสธอย่างเดียวว่าเป็นเรื่องของเทศบาลเพราะเทศบาลมีหน้าที่รับผิดชอบ ถ้านายกรัฐมนตรีมีใจคนจังหวัดปัตตานีที่เดือดร้อนกันทั้งกลุ่ม ทั้งแม่ค้า พ่อค้า ช่วยให้แม่ค้าอยู่กันร่วมกันอย่าแยกจากกัน ไปใหนไปด้วยกัน จะมาจัดตลาดใหม่ไม่ได้ มันเป็นตลาด ไม่ใช่ซุปเปอร์มารเก็ต ไม่ใช่ห้าง ทางด้าน นายสุริยันต์ เปียแก้ว เปิดเผยว่า จำนวนแม่ค้าที่ได้รับความเดือดร้อน มีทั้งหมดกว่า 400 แผง แต่ทางเทศบาลต้องการแค่ 150 แผง แล้วที่เหลือถามว่าแม่ค้าทั้งหมด 3 ร้อยกว่าแผง จะเอาไว้ที่ไหน เขาต้องเลี้ยงดูลูกหลานเขา พี่น้องเขา ถ้าเกิดเทศบาลทิ้งเขาไปเขาจะอยู่อย่างไรจะทำให้เกิดการแตกแยกถ้าไม่ดูก็จะเกิดปัญหาใหญ่ สามจังหวัดชายแดนก็มีปัญหามากอยู่แล้วถ้าไม่ให้เกิดความสงบ ให้ความยุติธรรมปัญหาจะบานปลาย ขอความเมตตาจากเทศบาลได้ทำมาหากิน อย่าโหดร้ายเกินไป หลายคนเป็นหนี้ กระทบรายได้อย่างมากจึงมาร้องเรียนกับศาลปกครองจังหวัดยะลาให้มีการไกล่เกลี่ยกับทางเทศบาลปัตตานีให้สามารถขายได้