วันที่ 18 มิ.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เปิดเผยถึงกรณีที่มีการโพสในโลกโซเชียลเกี่ยวกับการตรวจปัจสาวะของเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันอาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธ ในพื้นที่ของ สภ.ดอนตาล ภ.จว.มุกดาหาร ว่าได้รับรายงานจาก สภ.ดอนตาล ภ.จว.มุกดาหาร ว่าเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2562 เวลาประมาณ 10.00 - 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจบริเวณ ถนนมุกดาหาร - ดอนตาล หน้าตู้ยามนาคำน้อย ต.บ้านแก้ง อ.ดอนตาล จว.มุกดาหาร จนเวลาประมาณ 11.40 น. มีนายเจษฏา หรือพิศิษฐ์ศักดิ์ (ผู้โพสเฟชบุ๊ค) ขับรถยนต์กระบะ มาตามถนนดังกล่าวเส้นทางจาก จ.มุกดาหาร มุ่งหน้า อ.ดอนตาล เมื่อมาถึงจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ ได้ขอทำการตรวจปัสสาวะนายเจษฏา ซึ่งนายเจษฎา ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจ ผลการตรวจเบื้องต้น ปรากฏว่า มีสีม่วงลักษณะจาง (ผลเป็นบวก) จนท.จึงได้สอบถาม แต่นายเจษฏาฯยืนยันว่าไม่ได้เสพสารเสพติด จนท.จึงขอตรวจซ้ำ โดยผลการตรวจมีลักษณะที่ขึ้นมาจางๆเหมือนครั้งแรก ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้คำแนะนำนายเจษฎา ว่าน่าจะเข้าข่ายในฐานความผิด เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฏหมาย และเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน)โดยฝ่าฝืนกฏหมาย ซึ่งโดยปกติเมื่อถูกจับกุมตัวดำเนิน หากจะประกันตัวในชั้นสอบสวน จะมีอัตราเบื้องต้นเป็นจำนวนประมาณ 20,000 บาท แต่ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์แห่งคดีและการพิจารณาของผู้มีอำนาจในการให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบผลการตรวจปัสสาวะครั้งที่ 2 ซึ่งปรากฎผลที่ยังไม่แน่ชัด(มีลักษณะจาง) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปล่อยตัวนายเจษฏาไป โดยขณะนี้ พ.ต.อ.อลงกรณ์ เสนีย์รณฤทธิ์ ผกก.สภ.ดอนตาล ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยให้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ ตอบคำถามสังคมได้โดยหากผลการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ตั้งจุดตรวจมีความบกพร่อง หรือ กระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทั้งในทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากพบว่าข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องมีความบกพร่องจริงก็จะดำเนินการในทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด แต่คงต้องรอผลจากคณะกรรมการสืบสวนสอบในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเสียก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่ผ่านมาได้สั่งการมาโดยตลอด ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยว เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่พี่น้องประชาชน โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต เป็นธรรม ให้บริการประชาชนด้วยใจ เสมือนเป็นคนในครอบครัว นึกถึงความเดือดร้อน หรือปัญหาต่างๆที่ประชาชนมาขอความช่วยเหลือเป็นสำคัญ คอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชน ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย โดยให้ผู้บังคับบัญชาสอดส่องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดทั้งในเวลาราชการและนอกราชการ ตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 หากพบตำรวจนายใดมีพฤติกรรม เรียกรับผลประโยชน์ ประพฤติมิชอบ ทุจริตคอรัปชั่น จะดำเนินการตามกฏหมาย และระเบียบอย่างเด็ดขาด ไม่มีละเว้น และไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดีอยู่แล้ว