นายประจินต์ ธารศิริศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า เป็นประธานเปิดโครงการ ผู้ว่าพาเข้าวัดทุกวันพระ เนื่องจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดติดราชการ จึงมอบหมายให้ตน และหัวหน้าส่วนราชการ มาเปิดโครงการ ผู้ว่าพาเข้าวัดในวันพระสวนะ หรือวันพระใหญ่ ทุกวันพระ ความหมายของวันพระใหญ่ คือวันพระขึ้นหรือแรม ๑๕ ค่ำ ถ้าเดือนไหน เดือนขาดก็จะเป็นแรม ๑๔ ค่ำ แทน โครงการนี้ ต่อยอดมาจากโครงการ หมู่บ้านรักษาศีล ๕ ที่สำนักพุทธศาสนา กระทรวงศึกษา ให้ทุกวัดที่เป็นวัดพุทธทั่วประเทศ ดำเนินการโครงการดังกล่าวตามความเหมาะสม คำว่าตามความเหมาะสมหมายถึง บางพื้นที่ อาจจะไม่สะดวก ที่จะจัดทำโครงการ เช่น ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีปัญหา เรื่อง การก่อการร้าย มาอย่างพ่อเนื่อง และทางภาคใต้ มีไทยมุสลิม เป็นจำนวนมาก หากดำเนินการ ศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แบบเด่นชัด อาจทำให้ผู้ที่ นับถือศาสนาอื่นๆ จะเข้าใจผิด เรื่องนี้จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ ๆ ปฏิบัติราชการ อยู่ในพื้นที่ เป็นผู้ตัดสินใจ โครงการผู้ว่าพาเข้าวัด บางครั้ง ก็ใช้ชื่อโครงการ หิ้วปิ่นโตเข้าวัด แล้วแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละคน ในขณะเน้นรูปแบบไหน เหมาะสมพื้นที่ และสิ่งแวดล้อม เช่นวัดอยู่ห่างหรือใกล้ชุมขนาดไหน ในชุมชนนี้ มีประชากร มากน้อยเท่าใด ชาวบ้านนับถือศาสนาใดบ้าง หากมีศาสนาพุทธมาก ก็ใช้โครงการ ผู้ว่าพาเข้าวัด หรือหิ้วปิ่นโตเข้าวัด แต่ถ้าประชาชนในพื้นที่ นับถือศาสนาคริสจักร ก็จะไปเยี่ยม วัดและโบสถ์คริส ถ้าในพื้นที่ นับถือศาสนา อิสลาม ก็จะไปร่วม ตามพิธี ศาสนาดังกล่าว ทางด้านพันเอก จิระโรจน์ กองวารี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสมุทรสงคราม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ฝ่ายความมั่นคงภายใน ได้มาร่วมโครงการ ผู้ว่าพาเข้าวัด กล่าวว่า โครงการนี้ เป็นโครงการที่ดีมาก สร้างความสมานฉันท์ ในชุมชน และสร้างความคุ้นเคย ระหว่างข้าราชการกับ ชาวบ้านในพื้นที่ และร่วมกันบูรณาการ ในระหว่างภาครัฐ กับประชาชน ในด้าน พัฒนาบ้านเมือง และในด้านร่วมกัน รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม เช่นการร่วมกันทำบุญ ในวันพระ ทุกวันพระ ไม่จำเป็นต้องวันพระเล็กในวันพระใหญ่ หรือในวันสำคัญ ทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา วัน เข้าพรรษา และออกพรรษา วันสงกรานต์สำหรับวัฒนธรรม ของคนจีนก็ต้องเป็นวันตรุษจีน วันสาทรจีน ตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กล่าวเสมอ ว่า เราจะก้าวไปพร้อมกัน จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สำหรับรัฐบาลนี้ ทางด้านเจ้าอาวาสวัดบางสะแก อ.ตำบลบางสะแก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ได้ให้ข้อคิดว่า โครงการนี้ เป็นโครงการที่ดีมาก เพราะเหมือนทำนุบำรุงศาสนาพุทธ ให้คงอยู่ตลอดไป และให้เด็กรุ่นหลังได้รู้จัก ได้ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนา มิเช่นนั้นเด็กรุ่นใหม่ กำลังจะไม่รู้จักวัด ไม่รู้จักพระพุทธศาสนา แม้จะจัก พระสงฆ์ เพราะพบเจอกันบ่อย แต่เด็กไม่รู้จักวัด มีวัดไว้ทำอะไร ที่สำคัญ เด็กกำลังไม่รู้จัก พระธรรม ว่าพระธรรมมีหน้าที่อะไร พระธรรมมีชีวิตแบบพระสงฆ์ หรือไม่ เวลาที่เหลืออยู่กันนี้เหลือไม่มากนัก ต้องเลิกประพฤติความชั่ว ประพฤติแต่กรรมดี เท่านั้น ** สราวุฒิ ศรีธนานันท์ รายงาน