วันนี้ (17 มิ.ย. 62) นายพรชัย อินทร์สุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ ส.ส.พิจิตรเขต 1 ได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก นายวิรัตน์ พรมจาด อายุ 68 ปี ประธานสภา อบต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 3 ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร พร้อมด้วย นายโกศล พุ่มสุวรรณ อายุ 78 ปี อดีตเลขานายก อบต.ท่าหลวง , นายทุเรียน แสงศิริ อายุ 63 ปี ส.อบต.หมู่ 10 ต.ท่าหลวง ที่ได้ร่วมกันนำเอกสารเข้าร้องทุกข์ร้องเรียน ว่า อยากให้ สส.พรชัย ในฐานะทีเป็นผู้แทนของชาวบ้านไปนั่งอยู่ในสภาให้ช่วยดำเนินการประสานไปยัง รมว.มหาดไทย , อธิบดีกรมการปกครอง , ป.ป.ช. , ปปท. ที่มีหน้าที่ปราบปรามการทจริตโดยขอให้เอาจริงกับผู้กระทำการทุจริต ซึ่งมีเกิดขึ้นแล้วที่ตำบลท่าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่งผู้กระทำการทุจริตหรือคดโกงภาษีของประชาชนเป็นเจ้าพนักงานรัฐระดับท้องถิ่นทุจริตในโครงการรับเหมาก่อสร้างจำนวน 6 โครงการ และ 16 โครงการ ซึ่งการกระทำทุจริตข้างต้นพวกตนเองและชาวบ้าน ได้ถ่ายรูปและเก็บหลักฐานเข้าร้องเรียนกับ ป.ป.ช.พิจิตร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใช้เวลาสืบสวน สอบสวนอยู่นานนับปี จนในที่สุดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือคดีหมายเลขดำที่ 10-2-490/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 171-2-5/2561 มีผู้ถูกกล่าวหา 9 ราย ทุจริตต่อหน้าที่โดยเข้ารับเหมางานโครงการก่อสร้างของ อบต.แห่งนั้น ในปีงบประมาณ 2559 จำนวน 16 โครงการ โดยใช้ชื่อของบุคคลอื่นมาเป็นคู่สัญญาแทนตน เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้นและฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , นอกจากนี้เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2562 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีหมายเลขดำที่ 10-2-245/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 483-2-5/2561 มีผู้ถูกกล่าวหา 11 ราย ทุจริตต่อหน้าที่โดยเข้ารับเหมางานก่อสร้างของ อบต.ท่าหลวง ในปีงบประมาณ 2559 จำนวน 6 โครงการ ซึ่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารคำวินิจฉัยได้ส่งมายังจังหวัดพิจิตรเพื่อให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนดำเนินการตามหน้าที่กับบุคคลผู้ถูกกล่าวหาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยและให้สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในชั้นศาล โดยเรื่องดังกล่าวผ่านมาเนิ่นนานพอสมควรแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน ระดับอำเภอเมืองพิจิตร และจังหวัดพิจิตร กลับไม่มีการเร่งรัดในการปลดออกหรือให้ออกตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูล ซึ่งถ้าเป็นไปตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาตรา 98 ซึ่งตอนหนึ่งระบุว่าเมื่อผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนผู้ถูกกล่าวหา ได้รับสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา 91 แล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนผู้ถูกกล่าวหานั้นพิจารณาโทษทางวินัยตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติโดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอีก...มาตรา 100 ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน หรือ ผู้ใดไม่ดำเนินการตามมาตรา 98 โดยไม่มีเหตุอันสมควรให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย หรือกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของผู้ถูกกล่าวหานั้น ซึ่งถึงแม้จะมี พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องการและปราบปรามการทุจริตที่ระบุไว้ชัดเจนเช่นนี้แล้วก็ตามก็ยังปรากฏว่า ผู้กระทำการทุจริตในกรณีดังกล่าวก็ยังลอยนวลจึงทำให้ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวต้องเข้าร้องทุกข์กับ นายพรชัย อินทร์สุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ สส.พิจิตรเขต 1 ให้ช่วยนำเรื่องดังกล่าวนำเรียนถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเร่งรัดผู้มีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนของจังหวัดพิจิตรให้ดำเนินการดังกล่าว ในส่วนของ นายพรชัย อินทร์สุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ สส.พิจิตรเขต 1 กล่าวว่าเมื่อได้รับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ จาก นายวิรัตน์ พรมจาด ประธานสภา อบต.ท่าหลวง และพวก ก็จะขอเวลาเพื่ออ่านและศึกษาข้อเท็จจริงแล้วจะได้นำเรียนปรึกษากับ นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ว่า มีมาตรการ หรือ แนวทางดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ต่อไป