กรมส่งเสริมการเกษตร เผยเกษตรกรกว่าพันครัวเรือน ได้สิทธิ์รับความช่วยเหลือกรณีปลูกพืชหลังนาแล้ว ทยอยยื่นรายชื่อรับเงิน ล็อตแรก 17 มิ.ย.62 ย้ำภาคใต้ยังสมัครได้ถึง 15 ส.ค.62 เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.62 นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากรายงานติดตามความก้าวหน้าโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 พบเกษตรกรแจ้งขอปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2561/62 เพื่อเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก โดยผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการระดับตำบลเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ และกรรมการระดับอำเภอลงนามแล้ว กว่า 1,784 ครัวเรือน ในพื้นที่รวม 18,344 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 14 มิ.ย.62) โดยการสมัครเข้าร่วมโครงการ แบ่งเป็นพื้นที่ต่าง ๆ ประกอบด้วย พื้นที่ภาคใต้ สามารถปรับปรุง/ขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ตั้งแต่บัดนี้ -15 ก.ค.62 ซึ่งจะเปิดรับสมัคร ตรวจสอบและรับรองสิทธิ์เกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ จนถึง 15 ส.ค.62 สำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง และพื้นที่นอกเหนือจากพื้นที่ลุ่มต่ำและภาคใต้ ปิดรับสมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว โดยเกษตรกรที่แจ้งชื่อเข้าร่วมโครงการแล้วสามารถติดตามประกาศของทางราชการ เพื่อรอรับเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ตามวันเวลาที่กำหนดต่อไป “สำหรับเกษตรกรพื้นที่ภาคใต้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ขณะนี้ยังไม่ปิดรับสมัคร สามารถสมัครได้จนถึง 15 ส.ค.62 โดยเกษตรกรผู้สมัครเข้าร่วมโครงการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนจะได้รับค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการน้ำและศัตรูพืช อัตราไร่ละ 600 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ หรือไม่เกิน 9,000 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระในการบริหารจัดการน้ำและศัตรูพืชซึ่งสูงกว่าฤดูกาลปกติ เป็นการลดภาระค่าครองชีพ ควบคู่กับสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร รักษาศักยภาพการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง”อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว สำหรับคุณสมบัติเกษตรกรและเงื่อนไขที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ ประกอบด้วย 1.มีสัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะ 2.เป็นหัวหน้าครัวเรือน 1 สิทธิ์/ครัวเรือน (ตามที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร) 3.พื้นที่ปลูกมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย 4.ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนาปี 61/62 ในแปลงปลูกข้าวนาปี ในรอบ 3 ปี (2559-2561) ปีใดปีหนึ่ง พื้นที่ 1 งานขึ้นไป แต่ไม่เกิน 15 ไร่ 5.หากปลูกพืชหลังนามากกว่า 1 ชนิด เลือกชนิดพืชขอรับการช่วยเหลือได้ รวมกันไม่เกิน 15 ไร่/ครัวเรือน 6.กรณีปลูกพืชอายุสั้นหลายรอบการผลิตในพื้นที่เดียวกัน เช่น พืชผัก ขอรับการช่วยเหลือได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น 7.หากเปลี่ยนแปลงเลขที่เอกสารสิทธิ์ใหม่ เช่น แบ่งโฉนดแบ่งขาย เปลี่ยนเลขที่โฉนด ฯลฯ ต้องให้คณะกรรมการตรวจสอบสิทธิ์โครงการฯ ระดับตำบลตรวจสอบว่าเป็นพื้นที่นาที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ 8.เปิดบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. โดยพืชที่ร่วมโครงการนี้ได้คือพืชผักและพืชไร่ ยกเว้น อ้อย สับปะรด พืชปรับปรุงบำรุงดิน พืชปุ๋ยสด ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผล และไม้ยืนต้น ที่ปลูกหลังทำนาปี ทดแทนการปลูกข้าวนาปรัง และต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร สามารถยื่นขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือตามโครงการนี้ได้ตามพื้นที่ปลูกจริง ทั้งนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการช่วยเหลืออื่นของภาครัฐที่มีวัตถุประสงค์ใกล้เคียงกัน ในปี 2561/62 และได้รับการช่วยเหลือแล้ว เช่น โครงการส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลายฤดูนาปรัง ปี 2562 โครงการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งอื่นใด ซึ่งพื้นที่ได้รับความช่วยเหลือแล้วไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ส่วนพื้นที่ที่เหลือจากแปลงเดียวกันที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือสามารถเข้าร่วมได้ โดยสามารถแจ้งยืนยันขอรับสิทธิเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 ได้ด้วยตนเองที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก และนำเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน และใบมอบอำนาจ หากไม่สามารถมาด้วยตนเอง ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถขอคำแนะนำช่วยเหลือได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน