องค์การอนามัยโลกชี้ยอดผู้ป่วย 70% ของทั่วโลกมาจากย่านเอเชีย ขณะไทยปีนี้หนักกว่าปีที่แล้ว พบป่วยแล้วเกือบ 3 หมื่น เสียชีวิตแล้ว 43 กรมควบคุมโรคเร่งใช้มาตรการสำคัญ เฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมยุงลายใน 7 ร.
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หน้าฝน เป็นฤดูที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออก องค์การอนามัยโลก คาดการณ์ว่า แต่ละปีจะมีผู้ติดเชื้อไวรัสเดงกีทั่วโลกประมาณ 50 - 100 ล้านคน ร้อยละ 70 ของผู้ป่วยไข้เลือดออกทั่วโลกมาจากภูมิภาคเอเชีย
จากรายงานการเฝ้าระวังโรคของประเทศสมาชิก 7 จาก 10 ประเทศ พบว่าในปี 62 ทั้ง 7 ประเทศมีผู้ป่วยสูงกว่าเกณฑ์ตรวจจับการระบาด (Alert threshold) สำหรับไทยมีแนวโน้มที่จะมีการระบาดมากกว่าปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 11 มิ.ย.62 มีรายงานผู้ป่วย28,785ราย ซึ่งมากกว่าปี 61 ถึง 1.7 เท่า และพบผู้ป่วยเสียชีวิต 43 ราย อัตราป่วยตายสูงกว่าปกติ คือร้อยละ 0.15
ทั้งนี้ กรมฯ มีมาตรการสำคัญ เพื่อป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกไม่ให้ระบาด และขยายวงกว้าง จึงสั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัด ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ลงพื้นที่ดำเนินการให้สอดคล้องกับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อควบคุมยุงลาย ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2562 – 2566) เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อนำโดยยุงลาย ใน 7ร. คือโรงเรือน โรงธรรม โรงเรียน โรงพยาบาล โรงแรม โรงงาน และสถานที่ราชการ รวมทั้งสื่อสารสนับสนุน รณรงค์จัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อควบคุมยุงลายอย่างต่อเนื่อง พร้อมแลกเปลี่ยนและบริหารจัดการฐานข้อมูลอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ภายใต้โครงการจิตอาสาฯ เราทำความดีด้วยหัวใจ
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ประชาชนควรสังเกตอาการของตนและคนในครอบครัว หากมีไข้สูงเฉียบพลันและไข้นานเกินกว่า2วัน อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ ต้องรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัย เพราะหากเข้ามารับการวินิจฉัยช้า อาจเป็นเหตุสำคัญทำให้มีโรคแทรกซ้อนรักษายากขึ้นและเป็นปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิตได้
