วันนี้ (17 มิ.ย.62) ที่บริเวณพิธีเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ต.พนมไพร อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพร ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าสมเด็จพระเทพฯประจำปี 2562 โดยการดำเนินงานของนายสุเทพ พิมพิรัตน์ นายอำเภอพนมไพร นายทินกร พันธโคตร นายกเทศมนตรีตำบลพนมไพรคณะกรรมการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟคณะบั้งไฟ พี่น้องประชาชนชาวอำเภอพนมไพรและผู้มีเกียรติ เพื่อเป็นการบูชาองค์พระมหาธาตุ วัดกลางอุดมเวทย์ และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี บุญบั้งไฟให้คงอยู่สืบไป
นายสุเทพ พิมพิรัตน์ นายอำเภอพนมไพร กล่าวว่า.- ด้วยอำเภอพนมไพร ร่วมกับเทศบาลตำบลพนมไพร จะได้จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2562 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายน 2562 นั้น เพื่อเป็นการสักการะองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ อนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงาม เผยแพร่ชื่อเสียงของอำเภอพนมไพร เพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล พิธีบวงสรวงพระเศวตสุวรรณ ภาพรรณฯ , พิธีเปฺิดโครงการประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพร,และร่วมชมขบวนแห่บั้งไฟ และขบวนฟ้อนสวยงาม ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
นายทินกร พันธโคตร นายกเทศมนตรีตำบลพนมไพร กล่าวรายงานว่า.-ตามที่อำเภอพนมไพรร่วมกับเทศบาลตำบลพนมไพรและพี่น้องประชาชนชาวอำเภอพนมไพรจะจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพรชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพฯประจำปี 2562 ขึ้นโดยกำหนดวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายนเป็นวันรวม หรือวันเซิ้ง วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2562 เป็นวันแห่บั้งไฟในวันเปิดงานและวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2562 เป็นวันประกวดจุดบั้งไฟ ทั้งนี้เพื่อเป็นการบูชาองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีบุญบั้งไฟให้คงอยู่สืบไป
กิจกรรมบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพรจังหวัดร้อยเอ็ดประจำปี 2562 ประกอบด้วย พิธีบวงสรวงพระเศวตสุวรรณ ภาพนรณ พิธีจุดธูปเทียนบูชาเทวดาฟ้าดิน พิธีสักการะบวงสรวงตามประเพณี พิธีอัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี พิธีสักการะบูชาองค์พระมหาธาตุ พิธีเปิดงานโดยนายวันชัยคงเกษมผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
ประเภทการประกวดและแข่งขันประกอบด้วย ประกวดขบวนฟ้อนสวยงามชิงถ้วยพระราชทานจำนวน 10 ขบวน,ประกวดการประดับตกแต่งบ้ังไฟสวยงามหรือเอ้งามจำนวน 10,ขบวนประกวดบั้งไฟโบราณจำนวน 8 ขบวน,ประกวดขบวนแห่บั้งไฟโบราณจำนวน 8 ขบวน,ประกวดสาวงามผู้ถือป้ายขบวนแห่บั้งไฟสวยงามจำนวน 18 คน,ประกวดผาแดงนางไอ่จำนวน 18 คู่,ประกวดการจุดบั้งไฟแสนจำนวน 250 บั้ง
การประกวดขบวนฟ้อนสวยงาม,สาวงามผู้ถือป้าย,บั้งไฟประดับตกแต่งสวยงามหรือเอ้งาม,ขบวนแห่บั้งไฟโบราณนำโดยคณะองค์พระมหาธาตุ วัดกลางอุดมเวทย์ คณะมเหศักดิ์หลักเมืองและคณะอื่นๆ,ประกาศผลการประกวดทุกประเภทมอบรางวัลณบริเวณวัดกลางอุดมเวทย์,มหรสพสมโภชดนตรีเพื่อชีวิต,วันที่ 18 มิถุนายน วันจุดบั้งไฟบ้านดอนพระจันทร์ ทิศตะวันออกตำบลพนมไพร มีการจุดบั้งไฟเพื่อเบิกฤกษ์เบิกฟ้าเอาชัยและเพื่อความเป็นสิริมงคล การประกวดจุดบั้งไฟ
ประเภทรางวัลการประกวดขบวนฟ้อนสวยงามชิงถ้วยพระราชทานพร้อมเงินสด ชนะเลิศ 30,000 บาท,ประกวดบั้งไฟประดับตกแต่งสวยงามหรืองามรางวัลที่ 1 เงินสด 2 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,ประกวดบั้งไฟโบราณรางวัลที่ 1 เงินสดจำนวน 7,000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,ประกวดขบวนแห่บั้งไฟโบราณรางวัลที่ 1 เงินสด 10,000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,ประกวดสาวงามผู้ถือป้ายขบวนรางวัลที่ 1 เงินสดจำนวน 6 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,การประกวดผาแดงนางไอ่ รางวัลการประกวดผาแดงรางวัลที่ 1 เงินสด 5 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,รางวัลการประกวดนางไอ่รางวัลที่ 1 เงินสด 5 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,การประกวดการจุดบั้งไฟรางวัลการประกวดการจุดบั้งไฟแสนรางวัลที่ 1 เงินสดจำนวน 10,000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,รางวัลที่ 2 เงินสดจำนวน 8 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศรางวัลที่ 3 เงินสดจำนวน 6 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ
โดยหลักเกณฑ์คือบั้งไฟหมื่นและบั้งไฟ 50000 ไม่มีการประกวดและให้ใช้หลักเกณฑ์เช่นเดียวกับบั้งไฟแสนโดยอนุโลม ส่วนบั้งไฟแสนมีหลักเกณฑ์อาทิเลาบั้งไฟแสนต้องเป็นท่อพลาสลอนส่วนหางต้องเป็นไม้ไผ่เท่านั้น ขนาดของเลาบั้งไฟมีความยาวไม่เกิน 3.8 ถึง 4 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 6 นิ้ว บั้งไฟที่จุดขึ้นไปทุกบ้ังเลาและหางจะต้องไม่แยกออกจากกันโดยเด็ดขาด,บั้งไฟที่จะจุดทุกบ้ังจะต้องจุดที่ฐานหรือค้างที่คณะกรรมการจัดไว้ให้เท่านั้น หากฝ่าฝืนและเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่น คณะกรรมการจะไม่รับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น เจ้าของบั้งไฟและผู้จุด จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ในกรณีที่บั้งไฟที่นำมาจุดในงานนี้ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของประชาชน ให้ช่างผู้ทำบั้งไฟสำหรับบั้งไฟที่ก่อให้เกิดความเสียหายดังกล่าวต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นร่วมกับคณะกรรมการจัดงานทุกกรณีเว้นแต่กรณีข้อ 5
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดกล่าวเปิดว่า.- ท่านคงทราบ ประวัติความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดงานแล้ว แต่สิ่งที่ประทับใจมากคือการยึดถืองานประเพณีบุญบั้งไฟที่มีมาแต่โบราณกาล ของชาวพนมไพรอย่างมั่นคง จึงได้กำหนดการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟไว้เป็นการแน่นอนคือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 7 เป็นวันแห่บั้งไฟและวันแรม 1 ค่ำเดือน 7 เป็นวันจุดบั้งไฟ ซึ่งถือเป็นการนัดหมาย เป็นข้อตกลงร่วมกันทางประเพณี ที่ชาวอำเภอพนมไพรทุกคนได้ถือปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งในวันนี้ของทุกปีชาวอำเภอพนมไพรจะกลับมาร่วมงานประเพณีบุญบั้งไฟและถวายสักการะองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว แล้วที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ความรัก ความสามัคคี ความพร้อมเพรียง การเสียสละ ของพี่น้องชาวอำเภอพนมไพร ในการบริจาคปัจจัยเพื่องานประเพณีบุญบั้งไฟในปีนี้
นั่นแสดงว่าพี่น้องชาวอำเภอพนมไพรได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของงานประเพณี นับแต่นี้ต่อไปงานประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพร จะต้องมีการพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งและเป็นงานประเพณีอันยิ่งใหญ่ของจังหวัดร้อยเอ็ดและประเทศไทยสืบไป ซึ่งคนไทยทั่วไปจะได้รู้จักและมาเที่ยวชมงานประเพณีบุญบั้งไฟอันยิ่งใหญ่นี้ตลอดไป
นายสุเทพ พิมพิรัตน์ นายอำเภอพนมไพร กล่าวว่า.- ด้วยอำเภอพนมไพร ร่วมกับเทศบาลตำบลพนมไพร จะได้จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2562 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายน 2562 นั้น เพื่อเป็นการสักการะองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ อนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงาม เผยแพร่ชื่อเสียงของอำเภอพนมไพร เพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล พิธีบวงสรวงพระเศวตสุวรรณ ภาพรรณฯ , พิธีเปฺิดโครงการประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพร,และร่วมชมขบวนแห่บั้งไฟ และขบวนฟ้อนสวยงาม ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
นายทินกร พันธโคตร นายกเทศมนตรีตำบลพนมไพร กล่าวรายงานว่า.-ตามที่อำเภอพนมไพรร่วมกับเทศบาลตำบลพนมไพรและพี่น้องประชาชนชาวอำเภอพนมไพรจะจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพรชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพฯประจำปี 2562 ขึ้นโดยกำหนดวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายนเป็นวันรวม หรือวันเซิ้ง วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2562 เป็นวันแห่บั้งไฟในวันเปิดงานและวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2562 เป็นวันประกวดจุดบั้งไฟ ทั้งนี้เพื่อเป็นการบูชาองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีบุญบั้งไฟให้คงอยู่สืบไป
กิจกรรมบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพรจังหวัดร้อยเอ็ดประจำปี 2562 ประกอบด้วย พิธีบวงสรวงพระเศวตสุวรรณ ภาพนรณ พิธีจุดธูปเทียนบูชาเทวดาฟ้าดิน พิธีสักการะบวงสรวงตามประเพณี พิธีอัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาสยามบรมราชกุมารี พิธีสักการะบูชาองค์พระมหาธาตุ พิธีเปิดงานโดยนายวันชัยคงเกษมผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
ประเภทการประกวดและแข่งขันประกอบด้วย ประกวดขบวนฟ้อนสวยงามชิงถ้วยพระราชทานจำนวน 10 ขบวน,ประกวดการประดับตกแต่งบ้ังไฟสวยงามหรือเอ้งามจำนวน 10,ขบวนประกวดบั้งไฟโบราณจำนวน 8 ขบวน,ประกวดขบวนแห่บั้งไฟโบราณจำนวน 8 ขบวน,ประกวดสาวงามผู้ถือป้ายขบวนแห่บั้งไฟสวยงามจำนวน 18 คน,ประกวดผาแดงนางไอ่จำนวน 18 คู่,ประกวดการจุดบั้งไฟแสนจำนวน 250 บั้ง
การประกวดขบวนฟ้อนสวยงาม,สาวงามผู้ถือป้าย,บั้งไฟประดับตกแต่งสวยงามหรือเอ้งาม,ขบวนแห่บั้งไฟโบราณนำโดยคณะองค์พระมหาธาตุ วัดกลางอุดมเวทย์ คณะมเหศักดิ์หลักเมืองและคณะอื่นๆ,ประกาศผลการประกวดทุกประเภทมอบรางวัลณบริเวณวัดกลางอุดมเวทย์,มหรสพสมโภชดนตรีเพื่อชีวิต,วันที่ 18 มิถุนายน วันจุดบั้งไฟบ้านดอนพระจันทร์ ทิศตะวันออกตำบลพนมไพร มีการจุดบั้งไฟเพื่อเบิกฤกษ์เบิกฟ้าเอาชัยและเพื่อความเป็นสิริมงคล การประกวดจุดบั้งไฟ
ประเภทรางวัลการประกวดขบวนฟ้อนสวยงามชิงถ้วยพระราชทานพร้อมเงินสด ชนะเลิศ 30,000 บาท,ประกวดบั้งไฟประดับตกแต่งสวยงามหรืองามรางวัลที่ 1 เงินสด 2 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,ประกวดบั้งไฟโบราณรางวัลที่ 1 เงินสดจำนวน 7,000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,ประกวดขบวนแห่บั้งไฟโบราณรางวัลที่ 1 เงินสด 10,000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,ประกวดสาวงามผู้ถือป้ายขบวนรางวัลที่ 1 เงินสดจำนวน 6 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,การประกวดผาแดงนางไอ่ รางวัลการประกวดผาแดงรางวัลที่ 1 เงินสด 5 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,รางวัลการประกวดนางไอ่รางวัลที่ 1 เงินสด 5 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,การประกวดการจุดบั้งไฟรางวัลการประกวดการจุดบั้งไฟแสนรางวัลที่ 1 เงินสดจำนวน 10,000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ,รางวัลที่ 2 เงินสดจำนวน 8 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศรางวัลที่ 3 เงินสดจำนวน 6 000 บาทพร้อมถ้วยเกียรติยศ
โดยหลักเกณฑ์คือบั้งไฟหมื่นและบั้งไฟ 50000 ไม่มีการประกวดและให้ใช้หลักเกณฑ์เช่นเดียวกับบั้งไฟแสนโดยอนุโลม ส่วนบั้งไฟแสนมีหลักเกณฑ์อาทิเลาบั้งไฟแสนต้องเป็นท่อพลาสลอนส่วนหางต้องเป็นไม้ไผ่เท่านั้น ขนาดของเลาบั้งไฟมีความยาวไม่เกิน 3.8 ถึง 4 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 6 นิ้ว บั้งไฟที่จุดขึ้นไปทุกบ้ังเลาและหางจะต้องไม่แยกออกจากกันโดยเด็ดขาด,บั้งไฟที่จะจุดทุกบ้ังจะต้องจุดที่ฐานหรือค้างที่คณะกรรมการจัดไว้ให้เท่านั้น หากฝ่าฝืนและเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่น คณะกรรมการจะไม่รับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น เจ้าของบั้งไฟและผู้จุด จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ในกรณีที่บั้งไฟที่นำมาจุดในงานนี้ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของประชาชน ให้ช่างผู้ทำบั้งไฟสำหรับบั้งไฟที่ก่อให้เกิดความเสียหายดังกล่าวต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นร่วมกับคณะกรรมการจัดงานทุกกรณีเว้นแต่กรณีข้อ 5
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดกล่าวเปิดว่า.- ท่านคงทราบ ประวัติความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดงานแล้ว แต่สิ่งที่ประทับใจมากคือการยึดถืองานประเพณีบุญบั้งไฟที่มีมาแต่โบราณกาล ของชาวพนมไพรอย่างมั่นคง จึงได้กำหนดการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟไว้เป็นการแน่นอนคือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 7 เป็นวันแห่บั้งไฟและวันแรม 1 ค่ำเดือน 7 เป็นวันจุดบั้งไฟ ซึ่งถือเป็นการนัดหมาย เป็นข้อตกลงร่วมกันทางประเพณี ที่ชาวอำเภอพนมไพรทุกคนได้ถือปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งในวันนี้ของทุกปีชาวอำเภอพนมไพรจะกลับมาร่วมงานประเพณีบุญบั้งไฟและถวายสักการะองค์พระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว แล้วที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ความรัก ความสามัคคี ความพร้อมเพรียง การเสียสละ ของพี่น้องชาวอำเภอพนมไพร ในการบริจาคปัจจัยเพื่องานประเพณีบุญบั้งไฟในปีนี้
นั่นแสดงว่าพี่น้องชาวอำเภอพนมไพรได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของงานประเพณี นับแต่นี้ต่อไปงานประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพร จะต้องมีการพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งและเป็นงานประเพณีอันยิ่งใหญ่ของจังหวัดร้อยเอ็ดและประเทศไทยสืบไป ซึ่งคนไทยทั่วไปจะได้รู้จักและมาเที่ยวชมงานประเพณีบุญบั้งไฟอันยิ่งใหญ่นี้ตลอดไป