เอ็กซ์พีเดียชี้ผลสำรวจคนไทยติดอันดับท็อปชาร์ตความมีน้ำใจระหว่างการเดินทาง

นางสาว ลาวิเนีย ราชราม หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร แบรนด์เอ็กซ์พีเดีย เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า จากการศึกษามารยาทบนเครื่องบินและในโรงแรมของนักเดินทางทั่วโลกประจำปี 2562 ของเอ็กซ์พีเดีย ประเทศไทย ซึ่งผลสำรวจชี้ชัดให้เห็นถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเมื่อใช้บริการบนเครื่องบินและในโรงแรม โดยส่วนหนึ่งเป็นการสำรวจข้อมูลจากนักเดินทางชาวไทยจำนวน 601 คน เป็นเที่ยวบินส่วนบุคคลเฉลี่ยคนละ 11.2 เที่ยวบิน และเดินทางเพื่อธุรกิจเฉลี่ยคนละ 10.1 เที่ยวบินต่อปี ซึ่งรายงานนี้เป็นการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกของนักเดินทางทั่วโลกเกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าพอใจ และพฤติกรรมที่น่ารำคาญต่อคนส่วนใหญ่ แบบเจาะลึกรายละเอียดตั้งแต่ระดับภาคพื้นดินไปจนถึงบนอากาศ ในขณะที่เรามักจะได้รับรู้เรื่องราวแต่ในแง่ไม่ดีของพฤติกรรมที่น่ารังเกียจระหว่างเดินทางตามสื่อสังคมออนไลน์ แต่ผลสำรวจครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ายังมีแง่มุมดี ๆ ที่นักเดินทางส่วนใหญ่มีจิตเมตตาและมีน้ำใจต่อผู้อื่นมากกว่าที่เราคิด โดย นางสาว ลาวิเนีย กล่าวว่า เท่าที่เห็นในสื่อสังคมออนไลน์ การแสดงความมีน้ำใจต่อกันยังเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก ซึ่งนักเดินทางชาวไทยที่ได้รับการสืบทอดมรดก และวัฒนธรรมไทย ติดอับดับท็อปชาร์ตในเรื่องการแสดงความมีน้ำใจต่อเพื่อนนักเดินทางด้วยกัน ทั้งนี้ตามสถิติความมีน้ำใจ41% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกยินดีช่วยผู้อื่นยกกระเป๋าเดินทางขึ้นไปเก็บบนช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ และนักเดินทางชาวไทยติดอันดับสูงสุดถึง 50% ขณะที่ชาวอเมริกันเต็มใจเปลี่ยนที่นั่งกับผู้โดยสารอื่นมากที่สุดถึง 42% และคนไต้หวัน 40% คนไทยอยู่ ระดับกลาง ๆ 22% ส่วนชาวดัตช์มีจำนวน21% และคนญี่ปุ่นมีแนวโน้มน้อยที่สุด 9% สำหรับคนไทยนั้นเป็นคนที่มีความละเอียดอ่อนต่อผู้อื่นมากที่สุด แนวโน้มที่จะนำอาหารที่มีกลิ่นแรงขึ้นเครื่องบินจึงมีจำนวนค่อนข้างน้อย เพียง 15% ตามด้วยคนญี่ปุ่น13% และคนไต้หวัน 11% ในทางกลับกันชาวอินเดียมีจำนวนถึง 31%และชาวอเมริกัน 30% ที่ไม่สนใจคนรอบข้าง ทั้งนี้คนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีมากที่สุด เช่น ช่วยส่งกระดาษทิชชูหรือให้ยาแก้ไอเมื่อพบเห็นคนเจ็บป่วย คือชาวออสเตรีย 57% รองลงมาคือคนไทย 54% ส่วนคนญี่ปุ่น 19% และคนเกาหลีใต้ 24% จะให้ความช่วยเหลือเพื่อนบ้านที่มีอาการไอหรือจามน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามนักเดินทางจำนวนมากจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์เพื่อหลีกเลี่ยงความน่ารำคาญบนเครื่องบิน ในรายงานระบุว่า นักเดินทางจำนวน 95% บอกว่าพวกเขาจะไม่ยอมเมา ซึ่งนั่นถือว่าโชคดี เพราะผลของผู้ตอบ แบบสอบถามทั่วโลกในปีนี้ จำนวน 43% ระบุว่าผู้โดยสารที่เมาเป็นพฤติกรรมที่น่ารำคาญที่สุดบนเครื่องบิน มีเพียง 5% เท่านั้นที่ยอมรับว่าพวกเขาเมาเหล้าบนเครื่องบิน อีกทั้ง นางสาว ลาวิเนีย กล่าวว่า จากรายงานดังกล่าวได้ระบุถึง 5 อันดับ พฤติกรรมที่น่ารำคาญมากที่สุดสำหรับผู้โดยสารชาวไทยได้แก่ คนเมา43% คนป่วยที่แพร่เชื้อโรค 35% คนที่มีกลิ่นตัวแรง 27% คนที่ชอบเตะ/ชน/ดึงที่นั่ง 25% พ่อแม่ที่ไม่เอาใจใส่ลูกๆ 24% อย่างไรก็ตามคนบางคนก็สามารถแสดงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดกับต่อผู้โดยสารคนอื่นขณะที่นั่งติดอยู่บนเครื่องบิน แต่คนส่วนใหญ่ไม่คิดว่าจะใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อจัดการกับนักเดินทางที่หยาบคายเหล่านี้ได้ ดังนั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้โดยสารที่พฤติกรรมแย่ ๆ เหล่านี้ วิธีที่ดีที่สุดคือการพูดกับพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา แต่ผู้โดยสารชาวไทยส่วนใหญ่มักหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ส่วนชาวฝรั่งเศส 61% ตามด้วยชาวสวิส 57% และชาวเยอรมัน 57% มีแนวโน้มที่จะเผชิญหน้าโดยตรงกับพวกที่ชอบเตะที่นั่ง ในขณะที่นักเดินทางชาวไทย 41% จะขอให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเป็นคนจัดการแทน และคนไทย 69% จะตรงไปแจ้งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเมื่อพบกับผู้โดยสารที่แสดงพฤติกรรมหยาบคายต่อผู้โดยสารอื่น และคนไทยเพียง 16% เลือกเผชิญหน้ากับนักเดินทางที่หยาบคายโดยตรง ส่วนพฤติกรรมแย่งที่วางแขนบนเครื่องบิน คนไทย50% จะพูดตรง ๆ หากมีใครล้ำเข้ามายังที่วางแขนของตนและไม่ยอมให้มีที่ว่างแก่ผู้อื่นเด็ดขาด ซึ่งใกล้เคียงกับนักเดินทางชาวออสเตรียที่มีอันดับสูงสุดถึง 60% ขณะที่ผลการศึกษาพบเห็นการแสดงมารยาทยอดแย่ในโรงแรม ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลก 70% บอกว่าพวกเขาจะโทรไปที่แผนกต้อนรับเพื่อขอความช่วยเหลือหากพบปัญหาเสียงดังรบกวนระหว่างการเข้าพักในโรงแรม ซึ่งคนไทยมีจำนวนสูงกว่าโดยเฉลี่ย 74% เลือกใช้วิธีเดียวกับคนส่วนใหญ่ทั่วโลก คนอินเดีย 30% มีแนวโน้มที่จะเผชิญหน้าโดยตรงเมื่อพบว่ามีคนส่งเสียงดังที่สระว่ายน้ำ ส่วนชาวนิวซีแลนด์ 44% และชาวออสเตรเลีย40% เลือกที่จะปล่อยวางและเพิกเฉย ส่วนคนไทย 60% จะแจ้งปัญหานี้กับเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวหรือแจ้งผู้บริหารโรงแรมแทนที่จะเผชิญหน้าด้วยตัวเอง ทั้งนี้ผลรายงานระบุถึง5 อันดับมารยาทที่น่ารำคาญที่สุดในโรงแรม สำหรับนักเดินทางชาวไทย ว่า พ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลยลูก 42% พวกสำมะเทเมาในห้องพัก 36% พวกขี้เมาที่บาร์ 31% พวกที่ชอบเอะอะโวยวาย 27% พวกที่ชอบปาร์ตี้ 25% ส่วน มารยาทในการเช่าสถานที่พักช่วงวันหยุด คนไทย 26% มีความพอใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าบ้าน แต่พวกเขาก็เห็นด้วยว่ามีเรื่องบางเรื่องที่ไม่ควรกระทำเช่น การปัสสาวะลงในสระว่ายน้ำ 68% การนำของใช้ส่วนตัวกลับบ้าน 51% การนำหนังสือหรือภาพยนตร์กลับบ้าน 43% เมื่อกล่าวถึงพฤติกรรมที่ดี สำหรับการมอบของที่ระลึกดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์สากล ของการแสดงความเคารพต่อกันในหมู่นักเดินทางชาวไทย 18% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยกล่าวว่าพวกเขารู้สึกซาบซึ้งเมื่อได้รับของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการต้อนรับขณะเดินทางถึงที่พัก การมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารในบริเวณนั้น ๆ ตามมาเป็นอันดับสอง โดยนักเดินทางชาวไทย26% บอกว่า เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากที่สุดคือสิ่งที่เจ้าของสถานที่สามารถทำให้มากเท่าที่จะทำได้ ผลลัพธ์นี้เน้นย้ำให้เห็นว่า การดูแลแบบเป็นส่วนตัวเฉพาะบุคคลยังคงได้รับความพึงพอใจมากที่สุด ฉะนั้น การต้อนรับในฐานะเจ้าบ้านที่ดีรวมถึงการบริการอาหารฟรีจึงเป็นหนทางที่จะชนะใจนักท่องเที่ยวได้ สำหรับ ข้อมูลเกี่ยวกับการสำรวจ เป็นการศึกษาข้อมูลของผู้ใช้บริการบนเครื่องบินและในโรงแรมประจำปีที่จัดทำขึ้นโดยบริษัท นอร์ธสตาร์ (Northstar) บริษัทค้นคว้าวิจัยชั้นนำของโลก ในนามของเอ็กซ์พีเดีย การสำรวจนี้เป็นการทำแบบสอบถามทางออนไลน์ที่ทำขึ้นระหว่างวันที่ 12-29 เมษายน 2562 ทั่วทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ และเอเชียแปซิฟิก โดยใช้กลุ่มสุ่มตัวอย่างที่ดีที่สุดจำนวน 18,237 คน ใน 23 ประเทศทั่วโลก