เจ้าของร้านขนมหวานชื่อดังในจังหวัดตรัง ต่อยอดนำวัตถุดิบผลมัลเบอร์รี่ในท้องถิ่น มาทำเป็นไส้ใส่ในขนมครกญี่ปุ่น โอปันยากิ เครปโรล และน้ำมัลเบอร์รี่ รสชาติแปลกใหม่ หอมหวานให้ผลตอบรับดีเกินคาด ช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน เพิ่มมูลค่าสู่อนาคต
นายมงคล คงบัน อายุ 42 ปี เจ้าของร้านควนนิโต้ พาทิสเซอรี (Kaunito Patisserie) เลขที่ 2/5 ตำบลนาโยงใต้ อ.นาโยง จ.ตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ร้านควนนิโต้ พาทิสเซอรี ซึ่งเป็นร้านขนมหวานน่านั่ง มีหลากเมนู เริ่มต้นมาจากเครปโรล และปรับปรุงมาจนมีหลากหลายเมนูและอร่อยทุกเมนู โดยเฉพาะการนำเอาวัตถุดิบในท้องถิ่นมาเป็นส่วนผสมของขนม อย่างเช่น ผลมัลเบอร์รี่ ที่มีการปลูกในพื้นที่ อำเภอนาโยง ซึ่งเป็นแปลงอินทรีย์ ปลอดสารพิษ นำมาต่อยอดเมนูและดีไซด์เมนูต่างๆ อย่างลงตัว และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรในพื้นที่สร้างรายได้สู่เกษตรกรได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยทางร้านได้นำผลมัลเบอร์รี่มาทำเป็นไส้มัลเบอร์รี่ใส่ในขนม โอปันยากิ เครปโรล น้ำหม่อนเบอร์รี่ โดยผลตอบรับจากลูกค้าดีมาก
นายมงคล เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับมัลเบอร์รี่ที่เรานำมาใช้จากเกษตรกร อ.นาโยง ก็จะเป็นโอปันยากิ ที่เป็นตัวชูโรง ในตอนนี้ เป็นแป้งที่ดีไซด์ออกมาใหม่ด้วย โอปันยากิ ก็คือขนมครกญี่ปุ่น แต่ตัวแป้งจะเป็นเหมือน ขนมปอดควาย หรือขนมถังแตก ที่มีความเป็นยีสต์และมีแป้งสาลีอยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นตัวแป้งที่ดีไซด์ออกมาอยู่กับไส้มัลเบอร์รี่ ที่ออกแนวหวานๆละมุนหน่อย เข้ากันมาก บวกกับมะพร้าวอ่อน และผลิตภัณฑ์ตัวอื่นก็จะเป็นเครป ที่เป็นตัวดั้งเดิม เป็นเครปที่นำมาม้วน ใส่ไส้มัลเบอร์รี่เหมือนกัน เรากวนเป็นกึ่งๆแยมออกมา ก็จะได้เป็นไส้มัลเบอร์รี่ แล้วก็มีน้ำหม่อนเบอร์รี่ ที่เป็นนิยมของลูกค้า
"อีกส่วนหนึ่งที่เป็นซิกเนเจอร์ เอาหม่อนเบอร์รี่ผสมกับเสาวรส อันนี้คือผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น ตอบรับจากตลาดดีมากในช่วงเวลานี้ โดยเรานำมัลเบอร์รี่จากเกษตรกรมาเป็นวัตถุดิบวันละประมาณ 2-3 กิโลกรัม แต่จะใช้วิธีการซื้อสะสมไปเรื่อยๆ เพราะว่าบางช่วงเวลาหากช่วงหน้าฝน หม่อนเบอร์รี่ จะตกลูกไม่เยอะ ก็จะเก็บแช่เย็น หรือแช่ฟรีซเอาไว้ ส่วนรสชาติจะหวานมีเนื้อ ส่วนที่จะอมเปรี้ยวจะขึ้นอยู่กับผลหม่อนเบอร์รี่ ว่าเราจะใช้ผลแก่มาก หรือผลสุกมาก จะสามารถมิกซ์ได้ อันนี้คือข้อดีของลูกหม่อน จะต่างกับกลุ่มราสเบอร์รี่ หรือบลูเบอร์รี่ ถ้าเป็นบูลเบอร์รี่จะไม่มีความเปรี้ยวเลย" นายมงคล กล่าว
นายมงคล กล่าวต่อไปว่า แต่หากเป็นราสเบอร์รี่ก็จะเปรี้ยวไปเลย แต่หม่อนเบอร์รี่ เอานำเอาส่วนผสมเตรียมสัดส่วนไว้ หากต้องการเปรี้ยวหน่อย ก็เอาลูกที่แก่ขึ้นมาหน่อยนึงก็จะมีความอร่อยแบบมัลเบอร์รี่ ซึ่งหากลูกค้ามาที่ร้านก็จะเป็นว่ามีน้องๆกำลังทำอยู่เลย โดยเฉพาะโอปันยากิ ส่วนขนมเครปที่เป็นไส้ที่เป็นโรล เครปไส้มัลเบอรี่ก็จะมีเตรียมพร้อมไว้ ซึ่งตัวเครปสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นสัปดาห์ แต่ต้องเก็บในตู้เย็น เพราะอยู่คู่กับวิปปิ้งครีม แต่ตัวโอปันยากิ เป็นขนมทานวันต่อวัน ซึ่งโอปันยากิ ขายราคาชิ้นละ 35 บาท 3 ชิ้นราคา 100 บาท ลูกค้าสามารถเข้ามาซื้อชิมได้ทุกวันตั้งแต่ 8.00 น. – 21.00 น.
"จากที่ลูกค้าได้มาชิมผลตอบรับดีมาก ยิ่งช่วงนี้ลูกหม่อนเริ่มออกมามีผลสดออกมาให้ลูกค้าเห็นว่า เรามีผลสดๆมาจากไร่จริงๆ ทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะทุกคนจะถามว่าสดไหม พอบอกว่าสดเขาก็เห็นผลหม่อนอยู่เลย ก็ยิ่งจะอยากซื้อฝากด้วย สำหรับขนมโอปันยากิ จะมีหลายไส้ จะมีไส้เผือก ไส้ถั่วแดง ไส้มันม่วง ไส้ทูน่า ไส้มิกซ์เบอร์รี่ เอามาอยู่ด้วย แต่ในกลุ่มผลไม้ จะมีมะพร้าวอ่อนอยู่ด้วยเวลาทานแล้วมันจะได้กิมมิค กรุบๆๆ จากเนื้อมะพร้าวอ่อน เชิญนักท่องเที่ยวทุกท่าน แวะมาตรังอย่าลืมมาพิสูจน์ความอร่อยด้รับรองไม่ผิดหวัง" นายมงคล กล่าว
นายมงคล เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับมัลเบอร์รี่ที่เรานำมาใช้จากเกษตรกร อ.นาโยง ก็จะเป็นโอปันยากิ ที่เป็นตัวชูโรง ในตอนนี้ เป็นแป้งที่ดีไซด์ออกมาใหม่ด้วย โอปันยากิ ก็คือขนมครกญี่ปุ่น แต่ตัวแป้งจะเป็นเหมือน ขนมปอดควาย หรือขนมถังแตก ที่มีความเป็นยีสต์และมีแป้งสาลีอยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นตัวแป้งที่ดีไซด์ออกมาอยู่กับไส้มัลเบอร์รี่ ที่ออกแนวหวานๆละมุนหน่อย เข้ากันมาก บวกกับมะพร้าวอ่อน และผลิตภัณฑ์ตัวอื่นก็จะเป็นเครป ที่เป็นตัวดั้งเดิม เป็นเครปที่นำมาม้วน ใส่ไส้มัลเบอร์รี่เหมือนกัน เรากวนเป็นกึ่งๆแยมออกมา ก็จะได้เป็นไส้มัลเบอร์รี่ แล้วก็มีน้ำหม่อนเบอร์รี่ ที่เป็นนิยมของลูกค้า
"อีกส่วนหนึ่งที่เป็นซิกเนเจอร์ เอาหม่อนเบอร์รี่ผสมกับเสาวรส อันนี้คือผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น ตอบรับจากตลาดดีมากในช่วงเวลานี้ โดยเรานำมัลเบอร์รี่จากเกษตรกรมาเป็นวัตถุดิบวันละประมาณ 2-3 กิโลกรัม แต่จะใช้วิธีการซื้อสะสมไปเรื่อยๆ เพราะว่าบางช่วงเวลาหากช่วงหน้าฝน หม่อนเบอร์รี่ จะตกลูกไม่เยอะ ก็จะเก็บแช่เย็น หรือแช่ฟรีซเอาไว้ ส่วนรสชาติจะหวานมีเนื้อ ส่วนที่จะอมเปรี้ยวจะขึ้นอยู่กับผลหม่อนเบอร์รี่ ว่าเราจะใช้ผลแก่มาก หรือผลสุกมาก จะสามารถมิกซ์ได้ อันนี้คือข้อดีของลูกหม่อน จะต่างกับกลุ่มราสเบอร์รี่ หรือบลูเบอร์รี่ ถ้าเป็นบูลเบอร์รี่จะไม่มีความเปรี้ยวเลย" นายมงคล กล่าว
นายมงคล กล่าวต่อไปว่า แต่หากเป็นราสเบอร์รี่ก็จะเปรี้ยวไปเลย แต่หม่อนเบอร์รี่ เอานำเอาส่วนผสมเตรียมสัดส่วนไว้ หากต้องการเปรี้ยวหน่อย ก็เอาลูกที่แก่ขึ้นมาหน่อยนึงก็จะมีความอร่อยแบบมัลเบอร์รี่ ซึ่งหากลูกค้ามาที่ร้านก็จะเป็นว่ามีน้องๆกำลังทำอยู่เลย โดยเฉพาะโอปันยากิ ส่วนขนมเครปที่เป็นไส้ที่เป็นโรล เครปไส้มัลเบอรี่ก็จะมีเตรียมพร้อมไว้ ซึ่งตัวเครปสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นสัปดาห์ แต่ต้องเก็บในตู้เย็น เพราะอยู่คู่กับวิปปิ้งครีม แต่ตัวโอปันยากิ เป็นขนมทานวันต่อวัน ซึ่งโอปันยากิ ขายราคาชิ้นละ 35 บาท 3 ชิ้นราคา 100 บาท ลูกค้าสามารถเข้ามาซื้อชิมได้ทุกวันตั้งแต่ 8.00 น. – 21.00 น.
"จากที่ลูกค้าได้มาชิมผลตอบรับดีมาก ยิ่งช่วงนี้ลูกหม่อนเริ่มออกมามีผลสดออกมาให้ลูกค้าเห็นว่า เรามีผลสดๆมาจากไร่จริงๆ ทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะทุกคนจะถามว่าสดไหม พอบอกว่าสดเขาก็เห็นผลหม่อนอยู่เลย ก็ยิ่งจะอยากซื้อฝากด้วย สำหรับขนมโอปันยากิ จะมีหลายไส้ จะมีไส้เผือก ไส้ถั่วแดง ไส้มันม่วง ไส้ทูน่า ไส้มิกซ์เบอร์รี่ เอามาอยู่ด้วย แต่ในกลุ่มผลไม้ จะมีมะพร้าวอ่อนอยู่ด้วยเวลาทานแล้วมันจะได้กิมมิค กรุบๆๆ จากเนื้อมะพร้าวอ่อน เชิญนักท่องเที่ยวทุกท่าน แวะมาตรังอย่าลืมมาพิสูจน์ความอร่อยด้รับรองไม่ผิดหวัง" นายมงคล กล่าว