วันที่ 16 มิ.ย. 62 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนและเพื่อน ส.ส.พรรค พปชร.อีกจำนวนหนึ่ง กำลังรวบรวมข้อมูล การถือครองหุ้นของ ส.ส.ฝ่ายค้าน 7 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย , พรรคเสรีรวมไทย , พรรคอนาคตใหม่ , พรรคพลังปวงชนไทย , พรรคเศรษฐกิจใหม่ , พรรคเพื่อชาติ และพรรคประชาชาติ ที่มีชื่อเป็นผู้ถือครองหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการ ประเภท หนังสือพิมพ์ และสื่อมวลชน เพื่อทำคำร้องยื่นต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเข้าข่ายขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ห้ามผู้สมัคร ส.ส.เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ โดยเบื้องต้นตรวจสอบรายชื่อ ส.ส.ฝ่ายค้าน แล้วพบว่า เข้าข่ายดังกล่าวประมาณ 20 คนขึ้นไป ทั้งนี้ กรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้ร่วมกันยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ ส.ส.จำนวน 41 คน ของฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ตนเห็นว่า ควรจะต้องตรวจสอบ ส.ส.ที่มีชื่อเป็นผู้ถือครองหุ้นในลักษณะเดียวกันให้ครบทุกพรรค เพื่อความชัดเจน และปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่เลือกตรวจสอบแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เหมือนที่พรรคอนาคตใหม่ทำ เพราะหากดูจากรายชื่อ ส.ส.ที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นตรวจสอบล้วนเป็น ส.ส.ในฝั่งของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ปรากฎชื่อ ส.ส.ของฝั่ง 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ดังนั้น จึงอยากจะยกคำกล่าวของ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ว่าที่เลขาธิการประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเคยบอกกับ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ขึ้นมาเตือนสติอีกสักครั้งว่า ถ้าอยากเป็น ส.ส.ที่ดี การตรวจสอบไม่ควรเลือกปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดประกอบคำร้องและลงชื่อร่วมกับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ให้ครบ 50 คน และยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรภายในสัปดาห์นี้ เพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญต่อไป