วันที่ 16 มิ.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าภายในตลาดย้อนยุคชื่อดัง อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 62 เวลาประมาณ 21.30 น. ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.ค่ายบางระจัน ภ.จว.สิงห์บุรี ว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 62 เวลาประมาณ 21.30 น. รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าภายในตลาดย้อนยุคชื่อดัง หมู่ 9 ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ ซึ่งใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่มีร้านค้าได้รับความเสียหาย ประมาณ 20 ร้าน โดยต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้
สำหรับ สาเหตุเพลิงไหม้ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานมาประกอบ หากเป็นอุบัติเหตุไม่มีผู้กระทำผิดก็ไม่สามารถแจ้งข้อหาคดีอาญากับใครได้ ส่วนกรณีไฟฟ้าลัดวงจร หากเกิดจากสายไฟเก่า ชำรุดเสียหาย ไม่มีการเปลี่ยนหรือตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นระยะเวลานาน จนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดีหรือไม่นั้น จะต้องมีการพิจารณากันอีกครั้ง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือประชาชน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยเจ้าหน้าที่ต้องเร่งระงับเหตุเพลิงไหม้ พร้อมทำการอพยพประชาชนหนีเพลิงไหม้ด้วยความรวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถเผชิญเหตุได้ในทันที และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบและมีมาตรการรักษาความปลอดภัย เกี่ยวกับตัวโครงสร้างอาคารภายหลังเกิดเหตุ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการ พร้อมยังกำชับให้มีการฝึก อบรม ทำความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในการช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่น ซึ่งถือเป็นการเตรียมพร้อมเบื้องต้น ขณะเดียวกันประชาชนต้องตระหนักถึงการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุ เพราะเมื่อการเกิดเหตุการณ์แต่ละครั้ง ย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน
สำหรับ สาเหตุเพลิงไหม้ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานมาประกอบ หากเป็นอุบัติเหตุไม่มีผู้กระทำผิดก็ไม่สามารถแจ้งข้อหาคดีอาญากับใครได้ ส่วนกรณีไฟฟ้าลัดวงจร หากเกิดจากสายไฟเก่า ชำรุดเสียหาย ไม่มีการเปลี่ยนหรือตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นระยะเวลานาน จนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดีหรือไม่นั้น จะต้องมีการพิจารณากันอีกครั้ง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือประชาชน เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยเจ้าหน้าที่ต้องเร่งระงับเหตุเพลิงไหม้ พร้อมทำการอพยพประชาชนหนีเพลิงไหม้ด้วยความรวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถเผชิญเหตุได้ในทันที และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบและมีมาตรการรักษาความปลอดภัย เกี่ยวกับตัวโครงสร้างอาคารภายหลังเกิดเหตุ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการ พร้อมยังกำชับให้มีการฝึก อบรม ทำความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในการช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่น ซึ่งถือเป็นการเตรียมพร้อมเบื้องต้น ขณะเดียวกันประชาชนต้องตระหนักถึงการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุ เพราะเมื่อการเกิดเหตุการณ์แต่ละครั้ง ย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน