เมื่อ 17.00 น.วันที่ 15 มิ.ย.จากการที่ผู้บริหารองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น 3 แห่งประกอบไปด้วย นายกวิทยา เสนจันทร์ฒิไชย นายกเทศมนตรีตำบลบึงกาฬ นายเผด็จ ดงยะโสภา นายกเทศมนตรีตำบลวิศิษฐ์และนายราชันย์ วะนาพรม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงกาฬ ได้มีการเจรจาและตกลงยอมรับกันว่าจะต้องยุบรวมหน่วยงานของตน เพื่อรวมกันเป็น 1 ในนาม”เทศบาลเมืองบึงกาฬ” ตามคำแนะนำของนายธวัชชัย ศรีทอง รอง ผวจ.บึงกาฬ ทั้งนี้เพื่อการบริหารงานท้องถิ่นให้เป็นเอกภาพอย่างมั่นคงและยั่งยืน ทำให้พี่น้องประชาชนที่ตั้งอยู่ในเขตบริการของเทศบาลเมืองบึงกาฬ จะได้รับผลประโยชน์สูงสุด สะดวก สบายหลายประการ ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ไฟฟ้าและน้ำประปา เนื่องจากจะได้รับงบประมาณมาสนับสนุนและพัฒนามากขึ้นกว่าเดิม โดยตกลงมีเงื่อนไขว่าจะต้องมีการทำประชามติแสดงเจตนารมณ์ให้พี่น้องประชาชนในเขตบริการทั้ง 3 องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ออกมาลงคะแนนว่าด้วยเงื่อนไข 2 อย่างคือ 1.เห็นด้วย 2.ไม่เห็นด้วย ปรากฏว่าภาพรวมประชาชนที่อยู่ในเขตเทศบาลตำบลบึงกาฬและองค์การบริการส่วนตำบลบึงกาฬ ผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ์ตอบข้อ 1 เห็นด้วย เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้มาใช้สิทธิ์คือต้องการให้ยุบรวมทั้ง 3 แห่งเข้าด้วยกัน มีเพียงตำบลวิศิษฐ์ค่อยข้างสูสีกันมากระหว่างคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยตอบข้อ 1 เห็นด้วย จำนวน 1,301 คะแนนคิดเป็น 23.19 % ส่วนผู้ที่ตอบข้อ 2.ไม่เห็นด้วย มีจำนวน 1,218 คะแนน คิดเป็น 21.71% ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การลงประชามติยุบรวม อปท.ในครั้งนี้ผู้มาใช้สิทธิ์เบาบางมากคาดว่าน่าจะไม่เกิน40 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิ์ เพราะการที่ไม่มาใช้สิทธิ์ก็ไม่มีผลอะไรต่อผู้มีสิทธิ์ที่ไม่มา ซึ่งไม่เหมือนการเลือกตั้ง ส.ส.หากไม่มาใช้สิทธิ์ก็จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีการกากบาทไม่ถูกช่องหรือไม่กากบาทแต่เป็นขีดเครื่องหมายถูกแทน ทำให้เป็นบัตรเสียไปและมีบางหน่วยไม่มีชื่อผู้มาใช้สิทธิ์ เช่น หน่วยออกเสียงที่ 4 หมู่ที่ 1 วัดภูมิบาลวัฒนาหรือวัดเหนือ ต.วิศิษฐ์ ทั้งๆ ที่พึ่งมาใช้สิทธิ์เลือก ส.ส.เมื่อไม่นานนี่เอง. นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ