เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (12 มิ.ย.62) ร.ต.อ.เฉลียวเดช พิริยะธนากุล รอง สว.(สอบสวน) พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.บ้านเขว้า เร่งรุดไปตรวจขสอบที่เกิดเหตุ หลังรับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่าเกิดเหตุมีคนร้าย บุกเข้าไปงัดบ้านที่เปิดเป็นร้านค้าในปั้มนำมัน ภายในหมู่บ้านโนนเปลือย ตำบลตลาดแร้ง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ
พบนางศิริเพ็ญ วัดเมือง อายุ 49 ปี เจ้าของบ้านผุ้เสียหายดังกล่าว เลขที่ 50/3 หมู่ 16 บ้านโนนเปลือย ตำบลตลาดแร้ง อำเภอบ้านเขว้า ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวได้เปิดเป็นร้านค้าอยู่ด้านหน้าบ้าน จากการสอบถาม นางศิริเพ็ญ ผุ้เสียหายแจ้งว่าตนได้ออกไปทำธุระที่ตัวอำเภอบ้านเขว้า ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.วันเดียวกันที่ผ่านมา และกลับเข้ามาที่บ้าน เมื่อเวลาประมาณใกล้เที่ยง
จึงมาพบบริเวณหน้าบ้าน บานประตูทุกบาน รวมถึงประตูร้านค้า ก็พบว่า ปิดอยู่อย่างปกติ แต่เมื่อได้เปิดบ้านเข้าไปในตัวบ้าน ก็ตกใจแทบช็อก เมื่อพบข้าวของภายในบ้าน ที่ถูกรื้อค้นกระจัดกระจายไปทั่ว และบานประตู ห้องต่างๆภายในบ้าน ได้ถูกงัดออก โดยเฉพาะที่ห้องนอนของลูกสาว ซึ่งมีทรัพย์สินอยู่ หลายรายการ แต่โจรแสบรายนี้ ได้เลือกที่จะเอา เงินที่เป็นธนบัตรพิเศษ ที่ลูกสาวเก็บไว้ในกล่องเป็นอย่างดี เช่นเงินฉบับพิเศษ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ฉบับละ 500 บาท จำนวน 4 ใบ เงินฉบับพิเศษ สมเด็จพระเทพฯ ฉบับละ 100 บาท 11 ใบ และเงินสกุลต่างประเทศ รวมๆแล้ว จำนวนเงิน ที่สูญหาย ประมาณกว่า 5,000 บาท โดยโจรรายนี้ ไม่เลือกที่จะเอาทรัพย์สินรายการอื่น เช่นโทรศัพท์ iPad คอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป แม้กระทั่งของที่อยู่ในโซนร้านค้า ก็ไม่มีรื้อค้นแต่อย่างใด จะเลือกหาขโมยแต่เฉพาะเงินสดไปเท่านั้น
และจากสอบถามไปยังนายสนั่น ก็เจริญ อายุ 89 ปี ที่นอนอยู่ บริเวณบ้านที่อยู่หลังบ้าน ที่อยู่ถัดไปใกล้กันกับบ้านเกเหตุ คุณตาเล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ เกือบ 11.00 น. ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียง เหมือนคนเคาะไม้ บริเวณหลังบ้านที่เป็นร้านค้า แต่คุณตานึกว่า เป็นเจ้าของบ้าน ที่อาจจะซ่อมคอกหมู ที่เคยมาทำและได้ยินบ่อยครั้ง จึงไม่ได้สงสัยอะไรและไม่ได้เดินออกไปดู และไม่มีเสียงรถหรือยานพาหนะยานพาหนะใดๆเข้ามาในบริเวณนี้เลยช่วงก่อนเกิดเหตุ
ด้านส่วนนางศิริเพ็ญ ผู้เสียหายกล่าวว่า คาดว่าโจรแสบรายนี้ น่าจะไม่ใช่โจรมืออาชีพ เพราะทรัพย์สินอื่นๆ ไม่เลือกที่จะขโมยไป และน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และตามหาตัวได้ม่ยาก เพราะทรัพย์สินที่ได้ไป เป็นธนบัตรฉบับพิเศษ ที่จะนำไปใช้ ก็จะสังเกตได้ง่ายๆ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมสืบสวน จึงระดมช่วยกันลงพื้นที่ ตรวจสอบประชาสัมพันธ์ร้านค้าภายในหมู่บ้านอื่นใกล้เคียง เพื่อช่วยแจ้งเบาะแสหากมีคนนำไปใช้ เพื่อจะได้ช่วยกันติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้ ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป
ขณะที่มีรายงานว่า ปัญหาโจรออกอาละวาดขโมยของชาวบ้านในพื้นที่ช่วงนี้เริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และในแค่ช่วงวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา ได้เพียง 3 วัน ที่ไร่มันสำปะหลังท้ายหมู่บ้านเดียวกันที่เกิดเหตุมีโจรขโมยของชาวบ้านหายไปเป็นครั้งแรกที่ห่างกันไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่จุดเกิดเหตุห่างจากบ้านที่ถูกงัดครั้งนี้ห่างออกไปเพียง 1 กิโลเมตร ก็เคยมีสองสามีภรรยาชาวไร่มันสำปะหลังได้ขับรถยนต์กระบะ ไปจอดใต้ร่มไม้ห่างจากไร่ตัวเองเพียง 500 เมตร ก่อนที่จะลงไปดูไร่ตัวเอง
ก่อนที่จะเดินกลับมาที่รถในช่วงเวลาก่อนเหตุช่วงใกล้เที่ยงเช่นกัน ก็ได้มีโจรแสบแอบไปงัดรถกระบะดังกล่าว และขโมยเงินสดที่เก็บไว้ภายในรถดังกล่าวที่ต้องเศร้าที่เป็นเงินเก็บทรัพย์สินจำนวนนี้เก็บไว้ทำทุนประกอบอาชีพมาทั้งชีวิต และเตรียมนำไปซื้อปุ๋ยมาใส่ไร่ตัวเอง
ต้องมาถูกโจรแสบรายนี้บุกขโมยหายไปอีกกว่า 45,000 บาท รวมทรัพย์โทรศัพท์มีค่าอื่นๆอีกที่สูญหายไปมาแล้วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาในหมู่บ้านเดียวกันอีกนับแสนบาท จึงอยากฝากวิงวอนไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามตัวโจรแสบที่กำลังเหิมออกอาละวาดหนักในท่องเที่อำเภอบ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทั้ง 2 ครั้งติดต่อกันนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วในครั้งนี้ด้วย
จึงมาพบบริเวณหน้าบ้าน บานประตูทุกบาน รวมถึงประตูร้านค้า ก็พบว่า ปิดอยู่อย่างปกติ แต่เมื่อได้เปิดบ้านเข้าไปในตัวบ้าน ก็ตกใจแทบช็อก เมื่อพบข้าวของภายในบ้าน ที่ถูกรื้อค้นกระจัดกระจายไปทั่ว และบานประตู ห้องต่างๆภายในบ้าน ได้ถูกงัดออก โดยเฉพาะที่ห้องนอนของลูกสาว ซึ่งมีทรัพย์สินอยู่ หลายรายการ แต่โจรแสบรายนี้ ได้เลือกที่จะเอา เงินที่เป็นธนบัตรพิเศษ ที่ลูกสาวเก็บไว้ในกล่องเป็นอย่างดี เช่นเงินฉบับพิเศษ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ฉบับละ 500 บาท จำนวน 4 ใบ เงินฉบับพิเศษ สมเด็จพระเทพฯ ฉบับละ 100 บาท 11 ใบ และเงินสกุลต่างประเทศ รวมๆแล้ว จำนวนเงิน ที่สูญหาย ประมาณกว่า 5,000 บาท โดยโจรรายนี้ ไม่เลือกที่จะเอาทรัพย์สินรายการอื่น เช่นโทรศัพท์ iPad คอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป แม้กระทั่งของที่อยู่ในโซนร้านค้า ก็ไม่มีรื้อค้นแต่อย่างใด จะเลือกหาขโมยแต่เฉพาะเงินสดไปเท่านั้น
และจากสอบถามไปยังนายสนั่น ก็เจริญ อายุ 89 ปี ที่นอนอยู่ บริเวณบ้านที่อยู่หลังบ้าน ที่อยู่ถัดไปใกล้กันกับบ้านเกเหตุ คุณตาเล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ เกือบ 11.00 น. ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียง เหมือนคนเคาะไม้ บริเวณหลังบ้านที่เป็นร้านค้า แต่คุณตานึกว่า เป็นเจ้าของบ้าน ที่อาจจะซ่อมคอกหมู ที่เคยมาทำและได้ยินบ่อยครั้ง จึงไม่ได้สงสัยอะไรและไม่ได้เดินออกไปดู และไม่มีเสียงรถหรือยานพาหนะยานพาหนะใดๆเข้ามาในบริเวณนี้เลยช่วงก่อนเกิดเหตุ
ด้านส่วนนางศิริเพ็ญ ผู้เสียหายกล่าวว่า คาดว่าโจรแสบรายนี้ น่าจะไม่ใช่โจรมืออาชีพ เพราะทรัพย์สินอื่นๆ ไม่เลือกที่จะขโมยไป และน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และตามหาตัวได้ม่ยาก เพราะทรัพย์สินที่ได้ไป เป็นธนบัตรฉบับพิเศษ ที่จะนำไปใช้ ก็จะสังเกตได้ง่ายๆ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมสืบสวน จึงระดมช่วยกันลงพื้นที่ ตรวจสอบประชาสัมพันธ์ร้านค้าภายในหมู่บ้านอื่นใกล้เคียง เพื่อช่วยแจ้งเบาะแสหากมีคนนำไปใช้ เพื่อจะได้ช่วยกันติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้ ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป
ขณะที่มีรายงานว่า ปัญหาโจรออกอาละวาดขโมยของชาวบ้านในพื้นที่ช่วงนี้เริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และในแค่ช่วงวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา ได้เพียง 3 วัน ที่ไร่มันสำปะหลังท้ายหมู่บ้านเดียวกันที่เกิดเหตุมีโจรขโมยของชาวบ้านหายไปเป็นครั้งแรกที่ห่างกันไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่จุดเกิดเหตุห่างจากบ้านที่ถูกงัดครั้งนี้ห่างออกไปเพียง 1 กิโลเมตร ก็เคยมีสองสามีภรรยาชาวไร่มันสำปะหลังได้ขับรถยนต์กระบะ ไปจอดใต้ร่มไม้ห่างจากไร่ตัวเองเพียง 500 เมตร ก่อนที่จะลงไปดูไร่ตัวเอง
ก่อนที่จะเดินกลับมาที่รถในช่วงเวลาก่อนเหตุช่วงใกล้เที่ยงเช่นกัน ก็ได้มีโจรแสบแอบไปงัดรถกระบะดังกล่าว และขโมยเงินสดที่เก็บไว้ภายในรถดังกล่าวที่ต้องเศร้าที่เป็นเงินเก็บทรัพย์สินจำนวนนี้เก็บไว้ทำทุนประกอบอาชีพมาทั้งชีวิต และเตรียมนำไปซื้อปุ๋ยมาใส่ไร่ตัวเอง
ต้องมาถูกโจรแสบรายนี้บุกขโมยหายไปอีกกว่า 45,000 บาท รวมทรัพย์โทรศัพท์มีค่าอื่นๆอีกที่สูญหายไปมาแล้วในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาในหมู่บ้านเดียวกันอีกนับแสนบาท จึงอยากฝากวิงวอนไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามตัวโจรแสบที่กำลังเหิมออกอาละวาดหนักในท่องเที่อำเภอบ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ทั้ง 2 ครั้งติดต่อกันนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วในครั้งนี้ด้วย