เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต. รักษาการแทนเลขาธิการ กกต. แถลงถึงความพร้อมในการจัดทำประชามติ ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ว่า สำนักงาน กกต.ทุกจังหวัดได้รายงานความพร้อมแล้ว ทั้งในเรื่องวัสดุอุปกรณ์ บุคลากร และกรรมการประจำหน่วย (กปน.) ซึ่งในภาคเช้ายังไม่ได้รับรายงานปัญหาความผิดปกติใดๆ นอกจากนี้ กกต.ได้ไปสังเกตการณ์การแจกจ่ายวัสดุอุปกรณ์แล้วก็ไม่พบปัญหา พร้อมทั้งได้มีการแจกจ่ายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงใหม่ทั้งหมดเพื่อติดหน้าหน่วยเลือกตั้ง ส่วนการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านแอฟพริเคชั่นแรพิด รีพอร์ต มีปัญหาระบบเซิร์ฟเวอร์ล่ม ทำให้ขณะนี้การรายงานผลผ่านแอฟพลิเคชั่นแรพิด รีพอร์ต ไม่สามารถดำเนินการรายงานผลได้ เนื่องจากในบางพื้นที่อยู่ในจุดห่างไกล มีปัญหาการเชื่อมต่อสัญญาณ แต่ทาง กกต.กำลังเร่งแก้ไข และได้มีแผนสำรองให้หน่วยเลือกตั้งใช้แฟกซ์และโทรศัพท์รายงานผลคะแนนมายัง กกต.กลาง อาจจะมีความล่าช้าไปบ้าง แต่จะทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการภายในเวลา 21.00 น. ทั้งนี้ขอเน้นย้ำไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย และขอให้ใช้เครื่องหมายกากบาทลงในช่องลงคะแนนให้ถูกต้อง โดยกาเครื่องหมายเป็นเส้นตรง 2 เส้น ตัดกัน ซึ่ง กปน.จะอนุโลมและวินิจฉัยเครื่องหมายที่เป็นเส้นตรงตัดกันทุกรูปแบบ แม้จะไม่ใช้เครื่องหมายกากบาทที่สวยงามก็ไม่ถือเป็นบัตรเสีย นายบุณยเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับหีบบัตรและอุปกรณ์การลงคะแนน ได้ส่งให้ กปน.แล้ว โดยในกรุงเทพฯ กปน.จะฝากเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานเขต และจะมารับในช่วงเช้าของวันที่ 7 ส.ค. ส่วนหน่วยเลือกตั้งที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลจะมารับอุปกรณ์ไปเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ กปน.จะตรวจนับบัตรลงคะแนนและประกาศให้ประชาชนรับทราบ ก่อนเปิดให้ลงคะแนนในเวลา 08.00 น. ในส่วนของหีบบัตร หากมีปัญหาชำรุดจากการขนส่ง ทาง กกต.ได้เตรียมหีบบัตรสำรองไว้พร้อม โดยการลงคะแนนครั้งนี้จะใช้หีบบัตร 3 ประเภท คือ หีบพลาสติกที่สั่งผลิตใหม่ 5 หมื่นใบ หีบเหล็กและหีบกระดาษที่เคยใช้งานเดิม ส่วนข้อวิจารณ์การลงคะแนนประชามติครั้งนี้ไม่ค่อยเป็นประชาธิปไตยนั้น กกต.มีหน้าที่ดูแลในเรื่องกระบวนการออกเสียงเท่านั้น ส่วนในเรื่องความมั่นคงเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง และขอย้ำว่าไม่ควรก่อเหตุวุ่นวาย เพราะจะเป็นการขัดขวางการออกเสียงประชามติ อาจจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประชามติได้