สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อนุมัติสร้างและซ่อมแซมถนนในพื้นที่ คทช. 3 แห่ง 31 สาย วงเงินรวม 8.4 ล้านบาท ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการโครงการและการเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (อกก.คง.) ครั้งที่ 3/2562 ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ ดร.วิณะโรจน์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้อนุมัติค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการก่อสร้างถนนสายซอยในแปลงเกษตรกรรมในพื้นที่ คทช. จำนวน 3 โครงการ วงเงินรวม 8.4 ล้านบาท การอนุมัติโครงการดังกล่าวดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรและผู้ได้รับสิทธิ์ในการเดินทางเข้าออกที่อยู่อาศัยและขนส่งผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ภายในโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) อีกทั้งเส้นทางการคมนาคมนั้นเป็นหนึ่งในอีกปัจจัยที่สำคัญที่เชื่อมต่อกับภายนอกพื้นที่เพื่อรองรับในการดำเนินการพัฒนาพื้นที่จากหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายในพื้นที่ คทช. 3 แห่ง รวมเส้นทางทั้งหมด 31 สาย ระยะทาง 14.9 กิโลเมตร สำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณสนับสนุนเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการก่อสร้าง ปรับปรุงเส้นทางภายในแปลงเกษตรกรรมที่ดินที่ได้จากการยึดคืนพื้นที่ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 36/2559 ประกอบด้วย 1.โครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ถนนลูกรังสายซอยในแปลงเกษตรกรรม แปลงที่ดินเลขที่ No 44 ตำบลไทรทอง อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 4 สาย ระยะทางรวม 1.678 กิโลเมตร ประกอบด้วย 1.1 การปรับปรุงถนนลูกรังสายซอย ในแปลงเกษตรกรรม ผิวจราจรกว้าง 4 เมตร จำนวน 2 สาย ระยะทางรวม 1.247 กิโลเมตร 1.2 การก่อสร้างถนนลูกรังสายซอย ในแปลงเกษตรกรรม ผิวจราจรกว้าง 4 เมตร จำนวน 2 สาย ระยะทางรวม 0.431 กิโลเมตร 2.โครงการก่อสร้างถนนลูกรังสายซอยในแปลงเกษตรกรรม แปลงที่ดินเลขที่ Al 8 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ผิวจราจรกว้าง 4 เมตร จำนวน 12 สาย ระยะทางรวม 7.205 กิโลเมตร 3.โครงการก่อสร้างถนนสายซอยผิวจราจรหินคลุกในแปลงเกษตรกรรม แปลงที่ดินเลขที่ No 83 ตำบลหงษ์เจริญ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ผิวจราจรกว้าง 4 เมตร จำนวน 15 สาย ระยะทางรวม 6.058 กิโลเมตร ทั้งนี้ หลังจากการอนุมัติ ส.ป.ก.จะเร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างถนนให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกษตรกรที่ได้รับที่ดินทำกิน มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบอาชีพเกษตรกรรมของเกษตรกร และสามารถเดินทางเข้าทำประโยชน์ในแปลงที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุด และสามารถอยู่ได้ อยู่ดี อยู่อย่างยั่งยืนในพื้นที่ต่อไป