พ่อเมืองพิจิตร ลงพื้นที่ชี้แจงงบลุงตู่ 25 ล้านทำแพสูบน้ำเข้าบึงสีไฟยังใช้งานได้ดีมีประโยชน์

วันนี้ (9 มิ.ย.62) นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นายพงษ์เทพ ตรีเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 จ.พิษณุโลก , นายอภิรักษ์ ศรีกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร ได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อดูการสูบน้ำจากแพสูบน้ำริมแม่น้ำน่าน ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร ซึ่งเป็นแพสูบน้ำตามโครงการสูบน้ำเข้าบึงสีไฟที่เมื่อ 2 ปีก่อน สมัยที่ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจราชการที่บึงสีไฟ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำใหญ่มีพื้นที่ 5,300 ไร่เศษ แล้วประสบกับปัญหาสภาวะภัยแล้งจนน้ำแห้งขอด ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว จึงได้อนุมัติงบประมาณ 25 ล้านบาท ให้กรมชลประทานดำเนินการสร้างแพสูบน้ำและเดินท่อจากแม่น้ำน่านมายังบึงสีไฟระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อเติมน้ำเข้าบึงสีไฟในยามที่วิกฤต แต่เมือช่วงฤดูน้ำหลาก คือเมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคม 2561 แพสูบน้ำได้เกิดถูกกระแสน้ำพัดลอยไปหลุดออกจากที่ตั้ง ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานชลประทานพิจิตรที่ดูแลจึงได้ไปทำการมัดผูกโยงแพดังกล่าวไว้ที่บริเวณริมแม่น้ำน่านบ้านวังกรด อ.เมืองพิจิตร ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเดิมประมาณ 4-5 กิโลเมตรทำให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบเหตุการณ์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า แพสูบน้ำดังกล่าวอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยและตกเป็นข่าวเมื่อช่วงต้นปี 62 ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 62 สนง.ชลประทานจังหวัดพิจิตร จึงได้ไปดำเนินการใช้เงินจำนวน 6,000 บาท จ้างเรือยนต์จูงลากโยงแพดังกล่าวกลับมาติดตั้งได้เหมือนเดิมพร้อมทั้งจัดงบประมาณส่วนหนึ่งให้การไฟฟ้ามาทำการเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าเข้ากับแพสูบน้ำและทดลองเดินเครื่องเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ซึ่งก็พบว่าแพสูบน้ำและระบบส่งน้ำตามท่อเข้าบึงสีไฟยังคงใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งเครื่องสูบน้ำถ้าทำงานจะกินไฟชั่วโมงละ 600 บาท สูบน้ำได้นาทีละ 2,000 ลิตร ซึ่งที่ผ่านมาจะใช้เฉพาะในช่วงที่เกิดภาวะวิกฤตหน้าแล้งเท่านั้น เพราะมีตัวแปรค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าไฟฟ้าดังกล่าวข้างต้น ซึ่งขณะนี้ก็ให้สำนักงานชลประทานพิจิตรเป็นเจ้าภาพหรือเป็นผู้รับชอบ หากต้องมีการใช้งานหรือสูบน้ำเข้าบึงสีไฟ แต่ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน อีกทั้งภายในบึงสีไฟก็กำลังมีโครงการของกรมเจ้าท่าใช้งบประมาณ 341 ล้านบาท ในการขุดลอกบึงสีไฟอยู่ ดังนั้นจึงยังไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องเปิดสวิตช์เดินเครื่องแพสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าเพื่อเติมน้ำเข้าบึงสีไฟแต่อย่างใด โดยสรุป นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวยืนยันและยอมรับว่า ที่ผ่านมาแพสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้างบ 25 ล้านบาท เพื่อเติมน้ำเข้าบึงสีไฟที่อนุมัติงบประมาณ ในสมัย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และมี พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และเป็นความต้องการของชาวพิจิตร และทุกวันนี้ก็ยังใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า แต่ในส่วนที่เกิดการชำรุดเสียหายก็มีอยู่และเกิดขึ้นจริง ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ สนง.ชลประทานพิจิตร เพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชน ต่อไป