ชัยภูมิ (9 มิ.ย.62)ผู้สื่อข่าวได้รับทราบว่าที่ผ่านมา ร.ต.ท.วิราศ สินพร รอง สว.สอบสวนสภ.บ้านเขว้าได้รับแจ้งว่ามีเหตุงัดแงะลักขโมยเงินสดกว่า45,000 บาท ของสองสามีภรรยาอาชีพเกษตรกร ที่มาทำนาทำไร่มันอยู่ใน เขตพื้นที่รับผิดชอบ สภ.บ้านเขว้าชัยภูมิ จึงได้เดินทาง​ไปตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุ​ พร้อมจนท.ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านเขว้า ซึ่งเบื้องต้นภายในเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บน 3746 จังหวัดชัยภูมิในสภาพมี่องรอยถูกงัดแงะบริเวณกระจกข้าง ภายในพบว่ามีกระเป๋าบรรจุเงินสดไว้จำนวน 45,000 บาทและทรัพย์สินมีค่าอีกรายการที่หายไป ซึ่งได้จอดอยู่ใต้ร่มไม้ขนาดใหญ่ห่างจากถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ หมายเลข 225 ช่วงเขตตำบลตลาดแร้ง โดยสองสามีภรรยากล่าวว่าตนเองกับเมียได้ออกมาทำไร่มันตั้งแต่เวลา 8.00 น. จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.00 นได้กลับขึ้นมาเพื่อที่จะกินข้าวกลางวัน จากนั้นจึงได้พบการผิดสังเกตของรถยนต์ โดยมีลักษณะประรตูแง้มอยู่และเบาะด้านในรวมถึงลิ้นชักของถูกรื้อค้น กระจัดกระจาย จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ร.ต.ท. วิราศ สินพร รองสว.สอบสวน สภ.บ้านเขว้า เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนางเพ็ญศรี ชัยบุญ และนายเกียรติศักดิ์ ด้วงโต อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 18 บ้านห้วยเหนือ ตำบลตลาดแร้ง อำเภอบ้านเขว้าจังหวัดชัยภูมิ เบื้องต้นสอบถามเบื้องต้น ได้พบกับกันสาดของรถยนต์ ถูกวางไว้บริเวณฝาท้าย ทั้งคู่ตกใจมาก จึงรีบเปิดรถเข้าไปดู เพราะว่าตนได้เก็บเงินไว้ในกระเป๋า เป็นจำนวนเงิน 45,000 บาท พร้อมด้วยเอกสารบัตรต่างๆ ตุ้มหูทอง แล้วโทรศัพท์อีก 2 เครื่อง รายการทรัพย์สินทั้งหมด ได้สูญหายไปพร้อมกับกระเป๋าทั้ง 2 ใบ ซึ่งเป็นของ นายเกียรติศักดิ์และภรรยา โดยลักษณะของกระเป๋า เป็นกระเป๋าสะพายข้าง สีน้ำตาลและสีขาว จากนั้นตรวจสอบรอบๆรถ พบรอยลักษณะใช้ของแข็ง งัดที่ขอบกระจกและงัดกระจกหลุดออกจากประตู ผู้ที่ขโมยจึงสามารถปลดล็อคได้ โดยไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐานใดๆไว้เลย เบื้องต้นได้เก็บชิ้นส่วน เช่นกันสาดรถ แว่นตา และมีดพก ที่ถูกรื้อค้นอยู่ภายในรถไปตรวจสอบลายนิ้วมือ และให้ทั้งคู่ ไปให้ปากคำเพิ่มเติมบันทึกที่สภ.บ้านเขว้า ทางด้านนายเกียรติศักดิ์ ด้วงโต จากการสอบถาม ชาวบ้านข้างเคียงที่อยู่ไร่มันติดกัน ได้ความว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 9-10 นาฬิกา สังเกตเห็นว่า มีรถจักรยานยนต์ประมาณ 3 คัน ผู้ขับขี่สวมหมวกกันน็อค ขับวนไปวนมาหลายๆรอบ จากนั้น เห็นว่าได้มีการข้ามฝั่งถนนและเข้าซอยหายไป ส่วนนางเพ็ญศรี ชัยบุญ ถึงกับนั่งหมดแรง และอยากวิงวอนคุณโจ้นให้ช่วยเอาเงินมาคืน เพราะ ตนเองทำงานกว่าจะรวบรวม ด้วยน้ำพักน้ำแรงเก็บตังค์เพื่อที่จะ นำไปใช้หนี้ค่างวด และหนี้ค่าปุ๋ยค่ายาและหนี้อย่างอื่นอีกต่อไปด้วย// ชัยภูมิ/มัฆวาน วรรณกุล