ที่จ.อุดรธานี มีความคืบหน้ากรณีจอมขมังเวทย์เจาะกะโหลกน้องเก้าไปทำปั้นเหน่งคุณไสย ล่าสุดผู้บังคับการตำรวจภูรจังหวัดอุดรธานี ออกมาเผยสั่งลุยตร.ชุดสืบสวนเข้าตรวจค้นสำนักทรงเจ้าที่มีอยู่กว่า 40 แห่งหวังได้เบาะแสจอมขมังเวทย์กลุ่มนี้ เชื่อไม่ใช่มืออาชีพแค่เป็นความชอบส่วนตัว
พลตำรวจตรีวรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายเข้าไปเจาะกะโหลกบริเวณหน้าผากของน้องเก้าที่บริเวณเก็บศพวัดป่าส่งเสริมธรรมว่า ในเรื่องความคืบหน้ากะโหลกของศพเด็ก 6 ขวบ ถูกเจาะกะโหลกบริเวณหน้าผากไป และคาดว่าคนร้ายจะเอาไปทำเครื่องรางของขลังนั้น ล่าสุดได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติงานเข้าร่วมการประชุมเพื่อรายงานความคืบหน้าในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ
โดยกลุ่มคนร้ายที่เคยให้ข่าวไว้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุเมื่อครั้งปี 2558 ทั้งหมด 7 ราย ตำรวจเราได้ไปสืบสวน 3-4 รายพบว่าตอนนี้ออกมาจากเรือนจำแล้วโดยได้ออกมาประกอบอาชีพอยู่กับบ้านบางรายก็ทำเกษตรและไม่ได้มายุ่งเกี่ยว แต่ยังเหลืออีก 2-3 รายที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตามสืบสวนอยู่ กลุ่มเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบต่อไป คือ กลุ่มสำนักทรงเจ้าเข้าทรงหมอผีต่างๆในพื้นที่อุดรธานีซึ่งมีจำนวนกว่า 40 สำนัก จุดนี้คงต้องใช้เวลาสืบสวนกันสักระยะ
ทั้งนี้ยังไงเราได้มีการประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อขอผลการตรวจตัวอย่างที่เราเก็บได้จากกุฏิผู้ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่า 1 สัปดาห์จะรู้ผล โดยหากผลการตรวจมี DNA ของมนุษย์ หลักฐานชิ้นนี้เราจะนำมาประกอบในการสอบสวนต่อไป ในส่วนเรื่องของการเปิดเบ้าศพนั้นทางเราขอประชุมกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีการเปิดเพื่อนำหลักฐานหลักฐานเพิ่มเติมหรือเปล่ายังไงเราจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง หากเปิดแล้วได้ประโยชน์เราจะเปิดแต่ถ้าหากเปิดแล้วไม่ได้ประโยชน์เราจะไม่เปิด และจากการสอบพยานแวดล้อมพยานบุคคลหลายๆข้อมูลในวันที่เกิดเหตุเกิด พบว่าในช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม 1-2 มิถุนายน การสืบสวนก็แคบลงมาแล้ว
ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี กล่าวอีกว่า ส่วนตัวแล้วตอนนี้คิดว่าความเชื่อเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใหญ่กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่มืออาชีพถ้าจะนำสิ่งของเหล่าไปทำการใดจะทำกันเฉพาะบุคคล การทำก็เพื่อจุดประสงค์อยู่เพียง 2 อย่าง คือ เอาไปเพื่อขอหวยและนำไปเป็นของขลังติดตัวในการเสี่ยงโชคถือเป็นความชอบส่วน
พลตำรวจตรีวรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายเข้าไปเจาะกะโหลกบริเวณหน้าผากของน้องเก้าที่บริเวณเก็บศพวัดป่าส่งเสริมธรรมว่า ในเรื่องความคืบหน้ากะโหลกของศพเด็ก 6 ขวบ ถูกเจาะกะโหลกบริเวณหน้าผากไป และคาดว่าคนร้ายจะเอาไปทำเครื่องรางของขลังนั้น ล่าสุดได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติงานเข้าร่วมการประชุมเพื่อรายงานความคืบหน้าในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ
โดยกลุ่มคนร้ายที่เคยให้ข่าวไว้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุเมื่อครั้งปี 2558 ทั้งหมด 7 ราย ตำรวจเราได้ไปสืบสวน 3-4 รายพบว่าตอนนี้ออกมาจากเรือนจำแล้วโดยได้ออกมาประกอบอาชีพอยู่กับบ้านบางรายก็ทำเกษตรและไม่ได้มายุ่งเกี่ยว แต่ยังเหลืออีก 2-3 รายที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตามสืบสวนอยู่ กลุ่มเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบต่อไป คือ กลุ่มสำนักทรงเจ้าเข้าทรงหมอผีต่างๆในพื้นที่อุดรธานีซึ่งมีจำนวนกว่า 40 สำนัก จุดนี้คงต้องใช้เวลาสืบสวนกันสักระยะ
ทั้งนี้ยังไงเราได้มีการประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อขอผลการตรวจตัวอย่างที่เราเก็บได้จากกุฏิผู้ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่า 1 สัปดาห์จะรู้ผล โดยหากผลการตรวจมี DNA ของมนุษย์ หลักฐานชิ้นนี้เราจะนำมาประกอบในการสอบสวนต่อไป ในส่วนเรื่องของการเปิดเบ้าศพนั้นทางเราขอประชุมกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีการเปิดเพื่อนำหลักฐานหลักฐานเพิ่มเติมหรือเปล่ายังไงเราจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง หากเปิดแล้วได้ประโยชน์เราจะเปิดแต่ถ้าหากเปิดแล้วไม่ได้ประโยชน์เราจะไม่เปิด และจากการสอบพยานแวดล้อมพยานบุคคลหลายๆข้อมูลในวันที่เกิดเหตุเกิด พบว่าในช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม 1-2 มิถุนายน การสืบสวนก็แคบลงมาแล้ว
ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี กล่าวอีกว่า ส่วนตัวแล้วตอนนี้คิดว่าความเชื่อเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนใหญ่กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่มืออาชีพถ้าจะนำสิ่งของเหล่าไปทำการใดจะทำกันเฉพาะบุคคล การทำก็เพื่อจุดประสงค์อยู่เพียง 2 อย่าง คือ เอาไปเพื่อขอหวยและนำไปเป็นของขลังติดตัวในการเสี่ยงโชคถือเป็นความชอบส่วน