วันที่ 2 มิ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานสภาฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความว่า ...
เปรียบเทียบการตั้งนายกรัฐมนตรีปี 2535 และ ปี 2562 หลายคนถามให้เปรียบเทียบการเสนอแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2535 หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ กับ ปัจจุบัน เมื่อปี 2535 ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเสียงข้างมากในสภา เสียงข้างมากชัดเจนได้เสนอหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจากการเสนอหัวหน้าพรรคเสียงข้างมากนั้นชัดเจนว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของ รสช ซึ่งประชาชนได้ออกมาคัดค้านประท้วงไม่เห็นด้วยและได้มีการปราบปรามปะทะกันจนประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ออกมาชุมนุมโดยสงบสันติและปราศจากอาวุธได้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดการณ์ได้ว่า หากแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากพรรคเสียงข้างมากที่สภาเสนอ ประชาชนก็ย่อมต้องออกมาประท้วงอีก และรัฐบาลซึ่งมีทหารสนับสนุน ก็จะต้องปราบปรามกวาดล้างตามแนวทางของทหารอีกเช่นเดิม จะเกิดการนองเลือดและประชาชนล้มตายอีกเป็นจำนวนมาก แม้ว่าประธานสภาซึ่งสังกัดพรรคเสียงข้างมากอยู่แล้ว และได้รับทั้งคำรัองขอ คำสั่ง คำขู่และอามิสสินจ้างทั้งตำแหน่งและเงินทอง ให้เสนอชื่อตามที่พรรคเสียงข้างมากเสนอ แต่ไม่อาจเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีตามที่พรรคเสียงข้างมากเสนอได้ จำเป็นต้องหาคนกลางเพื่อเข้ามายุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินต่อไป สถานการณ์ในปี 2562 มีทั้งเหมือนและแตกต่างจากปี 2535 ส่วนที่เหมือนนั้น ในลักษณะที่มีการสืบทอดอำนาจของ คสช มีอยู่ชัดเจน ซึ่งหากการบริหารประเทศของ คสช ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเป็นผลดี ได้สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ปฏิรูปประเทศ และบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขถ้วนหน้ากัน ประชาชนก็จะอาจยินดีและเรียกร้องให้สืบทอดอำนาจต่อไปได้ แต่การมิได้เป็นเช่นนั้น การเขียนรัฐธรรมนูญและกติกาการเลือกตั้งใหม่ก็แสดงชัดเจนว่าตั้งใจจะสืบทอดอำนาจตั้งแต่ต้น และไม่เป็นธรรม ประชาชนจึงไม่ยอมรับอยู่แล้ว ในส่วนที่แตกต่างจากปี 2535 ประการสำคัญ คือพรรคต่างๆที่สนับสนุนรัฐบาลปัจจุบันกระจัดกระจายและมีเสียงสนับสนุนจากประชาชนน้อยมาก ไม่เป็นปึกแผ่นเอกภาพ แม้จะรวมตัวได้มากที่สุด ก็ยังเป็นรัฐบาลเป็ดง่อยที่ไม่สามารถสร้างความมั่นคงในการบริหารประเทศนำรัฐนาวาไปสู่ความเป็นปึกแผ่น มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้ จึงใคร่ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ปี 2562 นี้หนักหน่วงยิ่งกว่าปี 2535 มากนัก