สัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุเศร้าสลดใจจากเทรนด์การถ่ายภาพตัวเอง หรือที่เรียกกันว่า "เซลฟี" ขึ้นอีกแล้ว คราวนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดีย เมื่อเด็กหนุ่ม 2 คนจากกรุงนิวเดลี ถูกรถไฟขยี้ร่างจนเสียชีวิตในระหว่างกำลังโพสต์ท่าถ่ายภาพระหว่างรางรถไฟที่เขตอนันตวิหาร ทางตะวันออกของเมืองหลวงของประเทศ ผู้เสียชีวิตทั้งคู่คือ นายยาช คูมาร์ วัย 16 ปี และชูภาม วัย 14 ปี พวกเขาพร้อมด้วยเพื่อนๆ 5 คนที่เรียนด้วยกันลงขันกันเช่ากล้องดีเอสแอลอาร์ในราคา 400 รูปีห์ต่อวัน เพื่อมาถ่ายภาพเอาไปทำประวัติสำหรับโมเดลลิง สถานที่สำหรับโปรเจ็คนี้ก็คือรางรถไฟ โดยตั้งใจว่าจะให้ภาพถ่ายของตนเองมีรถไฟที่กำลังเคลื่อนเข้ามาเป็นฉากหลัง โดยที่ผู้เสียชีวิตหารู้ไม่เลยว่านี่จะเป็นช็อตสุดท้ายของชีวิต เพราะปรากฏว่า ระหว่างที่กำลังถ่ายภาพนั้นก็มีรถไฟอีกขบวนแล่นสวนมาอีกรางพอดี ก่อนหน้าที่อุบัติเหตุครั้งนี้จะเกิดขึ้น เด็กๆ กลุ่มนี้ได้ตระเวนถ่ายภาพตามที่ต่างๆ แต่ผู้เสียชีวิตเห็นว่ายังไม่ใช่รูปที่ดีพอ พวกเขาเลยตัดสินใจพากันมาที่บริเวณรางรถไฟ และถ่ายภาพท้าความตายหวังจะเอาไปอวดในโลกสังคมออนไลน์ "พวกเราคิดว่ามันเป็นความคิดที่น่าหลงใหลมาก ก็เลยตัดสินใจไปที่นั่น เราเคยเห็นภาพถ่ายบนรางรถไฟมามาก และเราก็คิดว่า เราน่าจะได้ภาพแบบนั้นบ้าง" นี่เป็นคำพูดของหนึ่งในเด็กกลุ่มนั้น ยาสเป็นเด็กที่กำลังมีอนาคต เขาเป็นเด็กฉลาด สนใจเรื่องการถ่ายภาพเป็นพิเศษ และกำลังเตรียมตัวสอบครั้งสำคัญในปีหน้า มารดาของเขาบอกว่า เขาไปเรียนพิเศษที่สถาบันเป็นประจำมาได้สักปีหนึ่งแล้ว เพื่อไปเรียนคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ วันที่เกิดเหตุเขาออกจากบ้าน โดยทิ้งโทรศัพท์มือถือเอาไว้ที่บ้าน ก่อนออกไปเขายังถ่ายภาพของตัวเธออยู่เลย ปกติเขาและน้องสาวอีกคนมักจะถ่ายภาพด้วยกัน แต่วันนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาออกไปถ่ายภาพกับเพื่อนๆ ผลการสอบสวนเบื้องต้น ประกอบกับภาพวงจรปิดที่ได้จากในที่เกิดเหตุพบว่า เรื่องเศร้าครั้งนี้เกิดจากความประมาทของเด็กๆ ประกอบกับการที่พวกเขาเข้าไปบริเวณรางรถไฟซึ่งเป็นจุดที่ไม่ควรเข้าไป ที่นำเสนอเรื่องนี้ก็เพื่อเป็นบทเรียน เพราะหลังๆ มานี่เทรนด์การถ่ายภาพตัวเองที่มาแรง โดยเฉพาะการนำภาพถ่ายมาอวดกันในโลกโซเชียล ทำให้หลายๆ คนยอมเสี่ยงที่จะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย เพื่อให้ได้มาซึ่งภาพที่สวยสมใจ อย่างบริเวณรางรถไฟก็มีหลายจุดในประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวพยายามจะถ่ายภาพเซลฟีขณะรถไฟกำลังวิ่งมา ซึ่งเป็นภาพที่หวาดเสียวไม่น้อย เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ การต้องสังเวยชีวิตให้กับการถ่ายภาพเซลฟีนั้นไม่ได้นานๆ เกิดขึ้นที แต่เรามีตัวอย่างอีกหลายครั้งที่ต้องมีคนสังเวยชีวิตให้กับภาพที่พวกเขาและเธอคิดว่าไม่มีที่ติ แต่นั่นก็กลายเป็นภาพสุดท้ายของชีวิต กรณีของ แอนนา อูร์ซู หญิงสาววัย 18 ปี ชาวโรมาเนีย ซึ่งโดยสารรถไฟมากับเพื่อน เหตุเกิดที่เมืองลาซี ระหว่างที่เธออยู่บนขบวนรถ เกิดอยาจะถ่ายเซลฟีที่ไม่เหมือนใครอวดโลกออนไลน์ เลยขึ้นไปนอนบนหลังคารถ ขณะที่กำลังจะถ่ายภาพนั้น เท้าของเธอก็ขึ้นไปสัมผัสกับลวดนำไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า 27,000 โวลต์ ทำให้ตัวเธอลุกเป็นไฟขึ้นมาทันที ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์พยายามจะช่วยชีวิตเธอ น่าเศร้าที่เธอจากไปหลังจากถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ความรุนแรงของกระแสไฟฟ้านั้นมากถึงขนาดส่งไปถึงเพื่อนเธออีกคนที่ขึ้นไปบนหลังคาด้วย แต่โชคดีที่ไปฟื้นที่โรงพยาบาล และได้สารภาพว่าพวกเขาอยากได้ภาพที่ดี ถึงขนาดไม่ได้ไตร่ตรองดูก่อนเลยว่าเสี่ยงขนาดไหน นี่ก็รถไฟอีกเหมือนกัน เหตุการณ์ จามชาอิด ข่าน วัย 22 ปี ชาวปากีสถาน เสียชีวิตขณะพยายามถ่ายเซลฟีตอนที่รถไฟกำลังแล่นมา เขาเป็นลูกจ้างของสถานีรถไฟที่เกิดเหตุ ดูเหมือนเขาจะเชื่อว่าจะสามารถเข้าไปถ่ายภาพ แล้วกระโดดออกมาทัน แต่ไม่เลยรถไฟทับร่างเขาแหลกเหลวเสียชีวิตคาที่ กรณีของ โรมัน กอนซาเลซ นักร้องแรปชาวเปอร์โตริโก ที่ใช้ชื่อในวงการว่า จาเดล สร้างสรรค์ผลงานเพลงดังออกมามากมาย แต่ต้องมาจบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 27 ปี เมื่อปี 2557 เพราะเจ้าตัวพยายามจะถ่ายภาพตัวเองขณะขับขี่รถมอเตอร์ไซด์ จนกระทั่งสูญเสียการควบคุมรถ รถลอยข้ามมาอีกฝั่งของถนนชนเข้ากับรถอีกฝั่งที่สวนมา แม้จะถูกเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที แต่ก็ไม่สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้ และถ้ายังไม่ลืม กระแสติดแท็ก #selfieolympics ที่ท้าให้ผู้คนแข่งกันโพสต์ภาพเซลฟีว่าของใครจะเจ๋ง และเป็นภาพที่ได้มาแบบเสี่ยงๆ มากกว่ากัน งานนี้ ออสการ์ เรเยส วัย 18 ปี จากไปเมื่อปี 2558 ขณะพยายามเข้าร่วมกิจกรรมนี้ เริ่มแรกเขาโพสต์ภาพของตัวเองในชุดตัวการ์ตูน สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์ บนเฟซบุ๊ก เรียกยอดไลค์ได้ถึง 200 ไลค์ และคงอยากจะทำให้ดีขึ้น ทว่าเขาถูกพบว่าเสียชีวิตในห้องน้ำของบ้านตัวเอง หลังจากปีนขึ้นไปบนประตู เพื่อถ่ายภาพสะท้อนกับกระจก เชื่อว่าเขาคงพลัดตกลงมา และกระแทกเข้ากับห้องน้ำ ผลการชันสูตรพบว่า เขาเสียชีวิตภายหลังในเวลาไม่นานจากการเสียเลือดมาก เซเนีย อิกนาตเยวา เพิ่งจะอายุได้ 18 ปี ตอนที่ปฏิบัติภารกิจเซลฟีที่พรากชีวิตเธอไปจากโลกที่เธอควรจะได้ใช้เวลาอยู่ดูมันได้นานกว่านี้ เธอปีนขึ้นไปบนเสาของสะพานบทางด่วน ใกล้กับนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เมื่อปี 2557 แม้จะเป็นช่างภาพมีฝีมือ และรักการถ่ายภาพหวาดเสียวเสี่ยงตายของตัวเอง แต่ก็ไปไหนมาไหนกับเพื่อนอยู่เสมอ วันเกิดเหตุเธอปีนขึ้นไปคนเดียว โดยที่เพื่อนๆ รออยู่ข้างล่าง ปรากฏว่า เธอสูญเสียการควบคุมตัวพลัดตกลงมาจากความสูง 30 ฟุต ก่อนจะร่วงลงสู่พื้นคอนกรีต เธอคว้าสายไฟเอาไว้ได้ แต่นั่นยิ่งทำให้แย่ เพราะกระแสไฟฟ้าแรงสูงไหลผ่านร่างเธอ พอเธอร่วงลงมาเพื่อนที่เข้าไปสัมผัสก็ถูกไฟช็อตจนช็อก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีเด็กมาปีนเสาเล่น จึงรุดมาดู แต่เมื่อมาถึงก็ช่วยชีวิตเธอไว้ไม่ได้เสียแล้ว เพียงนำร่างคนที่ถูกไฟช็อตเร่งส่งโรงพยาบาล นี่ก็เกิดที่รัสเซียอีกเช่นกัน แอนเดรย์ เรตรอฟสกี วัย 17 ปี พยายามถ่ายภาพเซลฟีขณะห้อยโหนอยู่บนชั้น 9 ของอาคารแห่งหนึ่ง โดยใช้เชือกยึดร่างกายเอาไว้ แต่ปรากฏว่าพลาดร่วงลงมา และแม้จะมีเชือกช่วย แถมตกลงในพุ่มไม้ แต่ด้วยความสูงตึก 9 ชั้น ทำให้เขาเสียชีวิตในอีก 2 ชั่วโมงให้หลัง เห็นได้ชัดว่าตัวอย่างเหล่านี้ มักจะเกิดขึ้นกับคนที่อายุยังน้อย คึกคะนอง ชอบลองชอบเสี่ยง เป็นกลุ่มคนที่ตามกระแสตามเทรนด์ ชื่นชอบการโชว์รูปตัวเองอวดโลกสังคมออนไลน์ จนไม่ทันได้นึกยังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น เห็นแบบนี้แล้วก็ลองคิดกันเองเองว่าเซลฟีที่แลกด้วยชีวิตแบบนี้คุ้มกันหรือไม่