การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ข้อสรุปการกำหนดระดับความสูงของชานชาลาในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 จำนวน 9 สัญญา ให้มีความสูงระดับ 1.10 เมตรจากระดับสันราง โดยยึดโยงประโยชน์ในการให้บริการแก่ผู้โดยสารทุกประเภท ทั้งผู้โดยสารทั่วไป ผู้พิการ เด็ก คนชรา และผู้โดยสารที่มีสัมภาระติดตัวจำนวนมาก ให้ได้รับความสะดวกสบายอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันดำเนินมาตรการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร ในช่วงที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านปรับปรุงอย่างใกล้ชิด นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตําแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงประเด็นข้อหารือในการกําหนดระดับความสูงของชานชาลาที่เหมาะสม ในการดําเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 จํานวน 9 สัญญาว่า การรถไฟฯ ได้ประชุมหารือถึงผลดีผลเสียในประเด็นดังกล่าวอย่างรอบคอบ โดยได้ข้อสรุปและกำหนดเป็นนโยบายให้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 จำนวน 9 สัญญา จะต้องดําเนินการสร้างเป็นชานชาลาความสูง 1.10 เมตรจากระดับสันราง รวมถึงให้มีการปรับปรุงส่วนต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับชานชาลาให้มีความสูงสอดคล้องตามที่กําหนดไว้ในเอกสารแนบท้ายสัญญาและงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ตลอดจนเป็นการสร้างความชัดเจนในการปฏิบัติงาน ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการตรวจรับงานล่าช้า รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในภายหลัง “การรถไฟฯ ได้ประเมินผลกระทบและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในหลายมิติ โดยคํานึงถึงสภาพปัจจุบัน และแผนงานในอนาคต ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการเดินรถโดยสาร ด้านการเดินรถสินค้า ด้านการซ่อมบํารุงรถจักรและล้อเลื่อน และที่สำคัญคือด้านการให้บริการที่ยึดโยงผู้โดยสารเป็นศูนย์กลาง ซึ่งได้ข้อสรุปกําหนดให้ก่อสร้างเป็นชานชาลาสูงความสูง 1.10 เมตรจากระดับสันรางมีความเหมาะสมสูงสุด แม้ในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านอาจเกิดความไม่สะดวกในการให้บริการอยู่บ้าง แต่ในระยะยาวจะเป็นผลดีให้ความสะดวกต่อผู้โดยสารทุกประเภทที่จะมาใช้บริการ ทั้งผู้โดยสารทั่วไป ผู้พิการ เด็ก คนชรา และผู้โดยสารที่มีสัมภาระติดตัวจํานวนมาก” นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การกำหนดการก่อสร้างชานชาลาระดับความสูง 1.10 เมตร ยังได้สอดคล้องกับนโยบายของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้จัดทำระบบขนส่งสาธารณะสามารถรองรับและให้บริการต่อผู้โดยสารทุกประเภท ซึ่งได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกแบบระบบขนส่งสาธารณะในลักษณะอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ประกอบกับในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่จํานวน 2 สัญญา ที่รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้มาในก่อนหน้านี้ ยังได้ให้ดําเนินการก่อสร้างเป็นชานชาลาสูงความสูง 1.10 เมตร จากระดับสันรางรวมอยู่ในค่าก่อสร้างของโครงการแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม ในระยะเปลี่ยนผ่านของการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้บริการของผู้โดยสารนั้น การรถไฟฯจึงได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร โดยให้นโยบายแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ให้ร่วมกันพิจารณาหาแนวทาง และมาตรการรองรับการให้บริการให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยต่อผู้โดยสารมากที่สุดในช่วงที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านปรับปรุงก่อสร้าง