ดนตรี/ทิวา สาระจูฑะ
สองสื่อที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการดนตรีจัดระดับเธอไว้พ้องกัน โรลลิ่ง สโตน ขึ้นชื่อเธอเป็น 1 ใน 10 ศิลปินคันทรี่หน้าใหม่ที่ต้องรู้จัก ในปี 2017 และ บิลล์บอร์ด ให้เธอเป็น 1 ใน 15 ศิลปินคันทรี่ที่น่าจับตามอง ในปี 2018
คาโรไลน์ โจนส์ ไม่ใช่คนในรัฐทางใต้ที่ศิลปินคันทรี่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ เธอเกิดที่นิวยอร์ค และเติบโตขึ้นในกรีนิช, คอนเน็คติกัท เริ่มเรียนร้องเพลงตอน 9 ขวบ และแต่งเพลงแรกอีกปีถัดมา นอกจากนั้นยังเรียนรู้การเล่นเครื่องดนตรีหลายประเภท รวมถึงเปียโน, กีตาร์, แบนโจ, แมนโดลิน, ฮาร์โมนิก้า และโดโบร
“ฉันอุทิศชีวิตของฉันให้กับสิ่งนี้ และนี่คือสิ่งที่ฉันรักที่สุด นั่นคือวิธีที่ฉันใช้เวลาไป ฉันไม่มีเวลามากพอในชีวิตที่จะเก่งกาจมันได้ทั้งหมด แต่ฉันรักการทำงานด้านการผลิต รักการวางเสียงดนตรี และรักการเรียบเรียงเสียงประสาน ฉันเริ่มจับเครื่องดนตรีเพราะพยายามจะให้โชว์ดูน่าสนใจมากขึ้น และความรักในการผลิตก็เติบโตขึ้น ฉันต้องการโปรดิวซ์”
คาโรไลน์ บอกถึงเหตุผลที่เธอฝึกฝนเครื่องดนตรีอย่างจริงจัง ส่วนการร้องเพลงนั้น เธอเรียนพื้นฐานการร้องโอเปร่าและแจ็ซซ์ ฟังเพลงของยอดนักร้องในทศวรรษ 1990 อย่าง มาไรอาห์ แครี่ย์, วิทนี่ย์ ฮูสตัน และ เซลีน ดิออน ศิลปินพวกนี้มีอิทธิพลต่อเธอ เช่นเดียวกับอภิมหานักร้องอย่าง บาร์บรา สไตรแซนด์ แต่พออายุ 16 ปี เธอก็ค้นพบคันทรี่
ในปี 2011 คาโรไลน์ ออกอัลบั้มอิสระชุดแรกชื่อ Fallen Flower ตามด้วยอีก 3 อัลบั้มแบบทำเองขายเอง Nice to Know You, Clean Dirt และ The Heart is Smart ทั้งหมดออกวางในปี 2012
คาโรไลน์ ทำงานหนัก สั่งสมผู้ฟังที่เริ่มรู้จักเธอมากขึ้น จนในที่สุดก็ได้เซ็นสัญญากับสังกัดเพลง เมล์โบ๊ท เรคอร์ดส์ และได้โอกาสเล่นเปิดให้ศิลปินดังๆ อย่าง จิมมี่ บั๊ฟเฟ็ทท์, แซ็ค บราวน์ แบนด์, ทิม แม็คกรอว์ และ เฟธ ฮิลล์, เคนนี่ เชสนี่ย์ ฯลฯ
นอกจากนี้เธอยังไปจัดรายการวิทยุ Art & Soul ทางเครือข่าย ซีเรียส เอ็กซ์เอ็ม
ขณะที่ออกตระเวนทัวร์ คาโรไลน์ ก็เริ่มวางแผนการทำอัลบั้มชุดแรกร่วมกับโปรดิวเซอร์ ริค เวค ผู้เคยมีผลงานผลิตกับ มาไรอาห์ แครี่ย์, เซลีน ดิออน, วิทนี่ย์ ฮูสตัน และ ทริชา เยียร์วู้ด
“ฉันแต่งเพลงเองทั้งหมด เล่นเครื่องดนตรีเองทั้งหมด ยกเว้นเบสส์กับกลอง และร่วมโปรดิวซ์กับเขา (ริค เวค)” เธอเล่า “มันเป็นแรงงานแห่งความรักที่แท้จริง มันคือการยกระดับ และเป็นอัลบั้มที่ลึกทางเนื้อเพลง มีพลัง สนุก และเป็นของจริง เหล่านั้นคือสิ่งที่ฉันต้องการให้ดนตรีของฉันเป็น”
ผลลัพธ์ก็คืออัลบั้ม Bare Feet ในปี 2018 ซึ่งได้การตอบรับอย่างดีจากผู้ฟังและนักวิจารณ์ แต่ก็ยังมีผู้ฟังคันทรี่แท้ๆจำนวนไม่น้อยที่ยังตะขิดตะขวงใจหรือลังเล เพราะดนตรีของ คาโรไลน์ ผสมผสานหลายอย่างนอกเหนือไปจากกลิ่นอายของคันทรี่ เช่นเดียวกับเสียงร้องของเธอที่ไม่มีสำเนียงคันทรี่เข้มจัด
“เมื่อคุณออกแสดงและทัวร์มากๆ วุฒิภาวะของคุณในฐานะบุคคลและในฐานะศิลปินก็จะเพิ่มขึ้น” เธอบอก “มันเป็นวิวัฒนาการอย่างหนึ่ง คล้ายกับอัลบั้ม Bare Feet ในนั้นจะเป็นการผสมผสานการผลิตแบบคันทรี่และป็อปเข้าด้วยกัน”
การอยู่กับสังกัดเล็กๆอย่าง เมล์โบ๊ท ก็อาจจะทำให้ผลงานของศิลปินสาววัย 28 ปีไม่ถูกเผยแพร่ไปกว้างขวางนัก แต่เชื่อว่าด้วยความสามารถและรูปลักษณ์ชวนมอง อีกไม่นาน บริษัทเพลงใหญ่จะต้องยื่นมือเข้ามามีส่วนร่วมกับผลงานของเธอแน่ ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นสัญญาร่วมกับ เมล์โบ๊ท หรือดึงตัวเอาไปเซ็นสัญญาเดี่ยวๆ นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอว่าจะเลือกอย่างไร
แต่ไม่ว่าอนาคตในเชิงธุรกิจจะเป็นอย่างไร นามนี้ก็ยังน่าจดจำไว้
ในปี 2011 คาโรไลน์ ออกอัลบั้มอิสระชุดแรกชื่อ Fallen Flower ตามด้วยอีก 3 อัลบั้มแบบทำเองขายเอง Nice to Know You, Clean Dirt และ The Heart is Smart ทั้งหมดออกวางในปี 2012
คาโรไลน์ ทำงานหนัก สั่งสมผู้ฟังที่เริ่มรู้จักเธอมากขึ้น จนในที่สุดก็ได้เซ็นสัญญากับสังกัดเพลง เมล์โบ๊ท เรคอร์ดส์ และได้โอกาสเล่นเปิดให้ศิลปินดังๆ อย่าง จิมมี่ บั๊ฟเฟ็ทท์, แซ็ค บราวน์ แบนด์, ทิม แม็คกรอว์ และ เฟธ ฮิลล์, เคนนี่ เชสนี่ย์ ฯลฯ
นอกจากนี้เธอยังไปจัดรายการวิทยุ Art & Soul ทางเครือข่าย ซีเรียส เอ็กซ์เอ็ม
ขณะที่ออกตระเวนทัวร์ คาโรไลน์ ก็เริ่มวางแผนการทำอัลบั้มชุดแรกร่วมกับโปรดิวเซอร์ ริค เวค ผู้เคยมีผลงานผลิตกับ มาไรอาห์ แครี่ย์, เซลีน ดิออน, วิทนี่ย์ ฮูสตัน และ ทริชา เยียร์วู้ด
“ฉันแต่งเพลงเองทั้งหมด เล่นเครื่องดนตรีเองทั้งหมด ยกเว้นเบสส์กับกลอง และร่วมโปรดิวซ์กับเขา (ริค เวค)” เธอเล่า “มันเป็นแรงงานแห่งความรักที่แท้จริง มันคือการยกระดับ และเป็นอัลบั้มที่ลึกทางเนื้อเพลง มีพลัง สนุก และเป็นของจริง เหล่านั้นคือสิ่งที่ฉันต้องการให้ดนตรีของฉันเป็น”
ผลลัพธ์ก็คืออัลบั้ม Bare Feet ในปี 2018 ซึ่งได้การตอบรับอย่างดีจากผู้ฟังและนักวิจารณ์ แต่ก็ยังมีผู้ฟังคันทรี่แท้ๆจำนวนไม่น้อยที่ยังตะขิดตะขวงใจหรือลังเล เพราะดนตรีของ คาโรไลน์ ผสมผสานหลายอย่างนอกเหนือไปจากกลิ่นอายของคันทรี่ เช่นเดียวกับเสียงร้องของเธอที่ไม่มีสำเนียงคันทรี่เข้มจัด
“เมื่อคุณออกแสดงและทัวร์มากๆ วุฒิภาวะของคุณในฐานะบุคคลและในฐานะศิลปินก็จะเพิ่มขึ้น” เธอบอก “มันเป็นวิวัฒนาการอย่างหนึ่ง คล้ายกับอัลบั้ม Bare Feet ในนั้นจะเป็นการผสมผสานการผลิตแบบคันทรี่และป็อปเข้าด้วยกัน”
การอยู่กับสังกัดเล็กๆอย่าง เมล์โบ๊ท ก็อาจจะทำให้ผลงานของศิลปินสาววัย 28 ปีไม่ถูกเผยแพร่ไปกว้างขวางนัก แต่เชื่อว่าด้วยความสามารถและรูปลักษณ์ชวนมอง อีกไม่นาน บริษัทเพลงใหญ่จะต้องยื่นมือเข้ามามีส่วนร่วมกับผลงานของเธอแน่ ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นสัญญาร่วมกับ เมล์โบ๊ท หรือดึงตัวเอาไปเซ็นสัญญาเดี่ยวๆ นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอว่าจะเลือกอย่างไร
แต่ไม่ว่าอนาคตในเชิงธุรกิจจะเป็นอย่างไร นามนี้ก็ยังน่าจดจำไว้