ศาลมีคำสั่งฝากขัง ไผ่ดาวดิน เป็นผลัดที่ 5 โดยก่อนไต่สวนศาลสั่งให้เป็นการพิจารณาคดีโดยลับ พ่อเผยที่ผ่านมายังไม่ได้มีการพูดคุยหรือให้ความช่วยเหลือเรื่องจัดสอบวิชาสุดท้ายของไผ่ตามที่มีข่าวออกมาแต่อย่างใด พร้อมสู้ต่อตามหลักกฎหมาย เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 20 ม.ค. ที่ ศาล จ.ขอนแก่น นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ผู้ต้องหาตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พรบ.คอมพิวเตอร์ พร้อมด้วย นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา รวมทั้งเพื่อนนักกิจกรรมกว่า 20 คน ที่รอฟังคำสั่งของศาลจ.ขอนแก่นหลังทางครอบครัวและทนายยื่นเรื่องขอประกันตัวชั่วคราวและคัดค้านการฝักขังของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ในผลัดที่ 5 ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนในจังหวัดขอนแก่นถึงกรณีดังกล่าว นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่าการไต่สวนฝากขัง 2 ครั้งที่ผ่านมา ศาลมีคำสั่งให้การพิจารณาเป็นการลับ ทำให้ในวันนี้ทางทนายความได้ยื่นคัดค้านการพิจารณาลับไว้ด้วย โดยยืนยันว่าแม้ศาลจะอ้างอำนาจตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 177 แต่มาตรา 177 ระบุเหตุที่ศาลจะสั่งให้พิจารณาลับไว้เพียงเพื่อประโยชน์แห่งความสงบเรียบร้อย หรือเพื่อป้องกันความลับไม่ให้ล่วงรู้ถึงประชาชน แต่การไต่สวนคำร้องขอฝากขัง เป็นเพียงขั้นตอนก่อนการพิจารณาคดี ที่ผู้ต้องหาใช้สิทธิคัดค้านเรื่องความจำเป็นในการควบคุมตัวผู้ต้องหา จึงไม่เกี่ยวกับเหตุดังกล่าวที่ศาลจะใช้อำนาจสั่งให้พิจารณาลับได้ ซึ่งมีการโต้แย้งกันอยู่สักพัก ทางด้านนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา จึงยอมให้ศาลเริ่มการไตสรวนแบบลับ แต่ให้ทนายออกจากห้องพิจารณาคดีไป โดยให้เหตุผลว่าแม้จะมีทนายความหรือไม่มีทนายความก็มีค่าเท่าเดิม และศาลจึงได้เริ่มการไต่สรวนและมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาต่อไปอีก 12 วัน ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน และให้ทนายความลงลายมือชื่อในกระบวนการพิจารณา แต่ทนายความได้ระบุว่าไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ เพราะได้เดินออกมาจากห้องพิจารณาแล้ว ไม่ได้รับทราบกระบวนการพิจารณาที่เกิดขึ้น จึงไม่สามารถลงลายมือชื่อเพื่อรองรับได้ ทางผู้ต้องหาเองก็ไม่ได้ลงลายมือชื่อในกระบวนการพิจารณาเช่นกัน ด้านนายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา พ่อของไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า เหตุที่ทางด้านไผ่ ไม่ต้องการทนาย เพราะเห็นว่า ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่มีหลักประกันความยุติธรรมแก่ตัวไผ่เลย ฉะนั้นจะมีทนายหรือไม่ก็ไม่มีความหมาย วันนี้ไผ่จึงขอสู้เอง ทั้งถามเอง ค้านเอง แถลงเอง แม้ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้ แต่ทางครอบครัวและทนายก็จะยืนหยัดสู้ตามหลักกฎหมายต่อไป นอกจากนี้กรณีปรากฏข่าวสารตามสื่อต่างๆ เรื่องการสอบวิชาทักษะคอมพิวเตอร์ ของทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นนั้น ขอยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการสอบเกิดขึ้นแต่อย่างใด และถ้าถามว่าเมื่อไหร่ก็ตอบไม่ได้เพราะยังไม่มีการพูดคุยกัน