ตำรวจท่องเที่ยว บุกทลายโกดังเครื่องมือแพทย์รายใหญ่ กลางใจเมืองขอนแก่น หลังพบเอี่ยวนายทุนปากีสถาน นำเข้าเครื่องมือแพทย์ผิดกฎหมายก่อนส่งจำหน่ายทั่วไทย พร้อมตรวจยึดของกลางได้รวมหลายรายการ เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (29 พ.ค.62) พ.ต.ท.เชน ภูโอบ รอง ผกก.1 กก.1 บก.ทท. 2 (กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 ) หรือตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยว นำหมายค้นของศาล จ.ขอนแก่น ที่ 125/2562 ลงวันที่ 29 พ.ค.2562 เข้าทำการตรวจค้นที่บริษัท เยอรมณี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ ตั้งอยู่เลขที่ 188/10 ม.12 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยพบนายจักริน ทัณฑรักษ์ อายุ 48 ปี แสดงตนเป็นผู้ดูแลอาคารดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้น พบอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เกี่ยวกับทันตกรรมจำนวนมาก โดยทำการเก็บรักษาอยู่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร นอกจากนี้ยังคงพบเอกสารการส่งสินค้า หนังสือรูปสินค้าตัวอย่างรวมหลายรายการ และเมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามถึงใบอนุญาตฯ นายจักรินไม่สามารถแสดงใบอนุญาตให้กับทางเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดสินค้าดังกล่าวทั้งหมด รวมทั้งคอมพิวเตอร์ 1 ชุด พร้อมทั้งเอกสาร หลักฐานต่างๆที่อยู่ในบริษัทดังกล่าว พร้อมทั้งคุมตัวนายนายจักริน ไปทำการสอบสวน ที่ สถานีตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น พ.ต.ท.เชน ภูโอบ รอง ผกก.1 กก. 1 บก.ทท.2 กล่าวว่า การนำหมายศาลเจ้าทำการตรวจค้นดังกล่าวเป็นการขยายผลการสืบสวนสอบสวนหลังจากที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้ทำการจับกุมชาวปากีสถาน ที่ท้องที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งทำการลักลอบนำเข้าสินค้าเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลและคลินิก ต่างๆ ทั่วทั้งประเทศไทย โดยใช้ชื่อ บริษัท เยอรมนี อินเตอร์เนชั่นเเนล เมดิคอล ตั้งอยู่เลขที่ 188/10 ม.12 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งในการจับกุมตัวชาวปากีสถาน คือ Mr.Saleem Muhammed พร้อมพนักงานขณะออกบูธแสดงสินค้าทางการแพทย์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในเจตจตุจักร กรุงเทพฯ โดยพบว่าสินค้าบางรายการไม่ได้มาตรฐานและไม่ผ่าน การอนุญาตจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. และที่สำคัญคือไม่ได้ชำระภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย " เมื่อสามารถจับกุมชาวปากีสถานได้แล้ว จึงทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลร่วมกันระหว่าง บช.ทท. กับ กระทรวงสาธารณสุข ด้วยการลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่อยู่ของสถานที่ตั้งของบริษัทฯดังกล่าว จนพบตัวนายจักริน ทำหน้าที่ดูแลรักษาอาคารและสินค้าทั้งหมดอยู่ จึงทำการจับกุมและตรวจยึดสินค้าทั้งหมดมาเพื่อทำการตรวจสอบตามขั้นตอน" ขณะที่ นายจักริน ให้การว่า บริษัทฯดังกล่าว เป็นของญาติและอดีตแฟน โดยตนเองนั้นเป็นพนักงานขาย ของบริษัทฯแห่งหนึ่ง โดยได้มาขออาศัย อยู่ที่บริษัทฯดังกล่าว เพราะสะดวกในการเดินทางไปมาในการติดต่อประสานงานและพบกับลูกค้าในความรับผิดชอบของตนเอง ขณะที่อุปกรณ์ทันตกรรมที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบครั้งนี้นั้น เป็นของพี่สาวและอดีตแฟนนำมาเก็บไว้ เพื่อจัดส่งให้กับลูกค้าตามคลินิกทันตกรรม หู คอ จมูก และศัลยกรรม รวมถึงในรพ.รัฐและเอกชนในพื้นที่ภาคอีสาน “ผมทราบเพียงว่าญาติและอดีตแฟนสาวตั้งบริษัทฯ นี้ขึ้นมา และทราบว่าทำทุกอย่าง ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผมไม่มีหน้าที่สั่งสินค้าหรือบริหารงานในบริษัทแต่อย่างใด รับหน้าที่เพียงส่งสินค้าให้ตามคำสั่งของผู้บริหารบริษัทฯ แหงนี้เท่านั้น การถูกจับครั้งนี้ จึงเหมือนเป็นแพะรับบาปแทนคนอื่น” พ.ต.ท.เชน กล่าวต่ออีกว่า คำให้การของผู้ที่ถูกจับกุมสามารถที่จะให้การใดๆก็ได้ จากนี้ไปก็ต้องว่ากันตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบสวนแล้วเสร็จ จึงตั้งข้อกล่าวหาว่า มีเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา,มีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือได้ใช้หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดนำส่งพนังกานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป