"พีดีเฮ้าส์" ไม่หวั่นปัจจัยลบรอบด้าน เดินหน้าเปิดตัวแบบบ้านซีรีส์ใหม่ “โมเดิร์นมินิมอล” จับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ พร้อมเน้นทำการตลาดออนไลน์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต ตั้งเป้าปิดยอดขายครึ่งปี 500 ล้านบาท นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด ภายใต้แบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วงไตรมาส 2 มีทิศทางเติบโตแบบชะลอตัว ด้วยเพราะมีปัจจัยลบหลาย ๆ ด้าน ทั้งจากสถานการณ์ทางการเมืองที่แย่งชิงกันจัดตั้งรัฐบาลของ 2 ขั้วอำนาจ กอปรกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจทั้งภาคการส่งออกที่ชะลอตัว และภาคการท่องเที่ยวที่ไม่ขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ อันเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อภายในประเทศ รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมากระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัย ด้วยการลดหย่อนภาษีเงินได้ สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่น่าเสียดายที่มาตรการดังกล่าว หนุนแต่เฉพาะธุรกิจบ้านจัดสรรและคอนโดฯ เท่านั้น อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้านี้ พีดีเฮ้าส์ สามารถเร่งปิดการขายและมียอดจองสร้างบ้านเฉลี่ยไตรมาสละ 300 ล้านบาทเศษ ทำให้มีปริมาณงานสร้างบ้านตุนไว้ที่จะเริ่มลงมือก่อสร้างในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ สถานการณ์ปัจจุบันจึงไม่น่าเป็นกังวลเท่าไรนัก ห่วงก็แต่สถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังมากกว่า หากการเมืองภายในประเทศยังวุ่นวาย และเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว ซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อผู้บริโภคแน่นอน และจะส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านหดตัวตาม ผู้ประกอบการในธุรกิจจะแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะรายเล็กรายย่อยที่ขาดจุดขาย หรือผลิตภัณฑ์และบริการไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนในสายตาผู้บริโภค ก็จะตกอยู่ในสถานการณ์แข่งขันลำบาก ฉะนั้นบรรดาผู้ประกอบการจึงควรต้องเร่งปรับตัว เพื่อทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้สะดวกและมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น นางสาวถิรพร สุวรรณสุต กรรมการบริหารสายงานการตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ตลาดบ้านสร้างเองและธุรกิจรับสร้างบ้านนั้น ไม่ได้รับ อานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยของรัฐบาล จึงทำให้ผู้ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้านต้องหากลยุทธ์การตลาดออกมากระตุ้นกำลังซื้อและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ในส่วนของ พีดีเฮ้าส์ เองก็จะเน้นเรื่องความชัดเจนของตำแหน่งทางการตลาดมากขึ้น ภายใต้จุดขาย “สร้างบ้านอนุรักษ์พลังงาน” สื่อสารผ่านการตลาดออนไลน์หลาย ๆ ช่องทาง อาทิ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ที่นิยมใช้เครื่องมือสื่อสารเคลื่อนที่ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตในการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ นอกจากนี้ พีดีเฮ้าส์ ยังชูจุดแข็งเรื่องความเชี่ยวชาญการก่อสร้างบ้านระบบโครงสร้างสำเร็จรูป ที่เรียกว่า พรีแฟบบรีเคชั่นแอนมัลติจ๊อยล็อคซีสเต็มท์ (Prefabrication & Multi - joint Lock System) สามารถก่อสร้างได้รวดเร็วและมีคุณภาพแน่นอนสม่ำเสมอ โดยมีแบบบ้านให้เลือกปลูกสร้างกว่า 200 แบบ ตามงบประมาณและรสนิยม ตลอดจนการให้บริการหลังการขายหรือการรับประกันที่ดีกว่ารายอื่น ๆ สำหรับ ช่วงท้ายไตรมาส 2 นี้ พีดีเฮ้าส์ เตรียมนำเสนอแบบบ้านซีรีส์ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ โมเดิร์นมินิมอล (Modern Minimal) จำนวน 6 แบบ โดยแบ่งขนาดพื้นที่ใช้สอยเป็น 2 กลุ่มคือ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 150-200 ตารางเมตร ระดับราคา 3-4 ล้านบาท และขนาดพื้นที่ใช้สอย 200-250 ตารางเมตร ระดับราคาบ้านอยู่ที่ 4-6 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่ ครอบครัวที่กำลังขยับขยายหรือสร้างครอบครัวใหม่ และเน้นให้สมาชิกในครอบครัวทุกช่วงวัยสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย เป็นสไตล์บ้านที่เข้าใจง่ายและเรียบง่ายไม่เน้นการตกแต่งที่หวือหวาแต่เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลักเหมาะกับคนยุคนี้ที่ต้องประหยัด เชื่อว่าแบบบ้านซีรีส์ใหม่นี้จะตรงใจผู้บริโภคอย่างแน่นอน พร้อมตั้งเป้ายอดขายครึ่งปีแรก 2562 ไว้ที่ประมาณ 500 ล้านบาท