บริษัทโรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือEPCO ดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์ในลักษณะครบวงจร ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหารมีเป้าหมายที่จะมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านงานพิมพ์คุณภาพที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบวงจร และมุ่งมั่นนําพากลุ่มบริษัทให้เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ช่วงที่ผ่านมา EPCO ได้เดินหน้าขยายทั้งธุรกิจโรงพิมพ์ และโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการสร้างฐานให้แข็งแกร่ง เพื่อพัฒนาศักยภาพช่วยสนับสนุนการเติบโตในอนาคต ซึ่งในปี 2562 ถือว่าเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลจากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสิ่งพิมพ์ และโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพราะปัจจุบันมีความคืบหน้าอย่างชัดเจน เริ่มต้นจากธุรกิจโรงพิมพ์ บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจสิ่งพิมพ์ไปยังบรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องลูกฟูก จึงได้ซื้อกิจการโรงพิมพ์เพิ่มในการลงทุนหุ้นสามัญของ บริษัทดับบลิวพีเอส (ประเทศไทย) จํากัดหรือ WPS เมื่อช่วงปลายปี 2561 และมีแผนเชิงรุกเข้าสู่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก มุ่งสู่การเป็นโรงพิมพชั้นนำของประเทศไทยที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร โดย WPS มีพื้นที่มากสามารถขยายธุรกิจไปยังบรรจุภัณฑ์กล่อง ลูกฟูกได้ สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้า ปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้ง ทั้งในและต่างประเทศอยู่ที่ระดับ 424 เมกะวัตต์ และในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) เพิ่มเติมอีก 131 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าโดยรวมอยู่ที่ 555 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเภท Solar Farm ที่จังหวัดฟูเยี้ยน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จำนวน 2 โครงการ ซึ่งบริษัทคาดจะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD)ได้ตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.62 โดยโครงการดังกล่าวมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 110.03 เมกะวัตต์ สัญญาซื้อขายไฟฟ้า มีระยะเวลาขายไฟฟ้าให้กับ Electricity of Vietnam (“EVN”) เป็นเวลา 20 ปีในอัตรารับซื้อไฟฟ้า(Feed in Tariffหรือ FIT) ที่ 0.0935 ดอลลาร์ต่อหน่วย ขณะที่ดำเนินการโดย Kurihara GK ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EPCO ถือหุ้น 98% เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 17.25 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่เขตพื้นที่คูริฮาร่า จังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับหนังสือแจ้งผลการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากTokoku โดยมีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปีในระบบ Fit ซึ่งราคาขายไฟฟ้าอยู่ที่ 36 เยนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงคงที่ตลอดอายุสัญญา และคาดว่าจะCOD ภายในเดือนตุลาคม 2562 ยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าภาพรวมการเติบโตปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่ารายได้รวมทั้งปีจะเติบโตแตะระดับ 50% ทุบสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง เนื่องจากธุรกิจโรงพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์มีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากได้เข้าไปลงทุนซื้อหุ้นของ บริษัทดับบลิวพีเอส (WPS) ซึ่งยังคงมีการเติบโตสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และอยู่ระหว่างเพิ่มศักยภาพของธุรกิจการพิมพ์ คาดว่าจะเริ่มผลิตกล่องลูกฟูกได้ตั้งแต่เดือนก.ค.62 เป็นต้นไป ดังนั้นจะช่วยให้บริษัทมีรายได้ธุรกิจโรงพิมพ์เพิ่มขึ้นเท่าตัว สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆเพิ่มขึ้นหลังจาก CODได้ ทั้งจากโครงการโรงไฟฟ้าฟูเยี้ยน ในเวียดนาม และโรงไฟฟ้าโครงการคูริฮาร่า 2 ดั้งนั้นจะช่วยสนับสนุนให้การเติบโตยังคงทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้อย่างแน่นอน