ปีนี้ป่วยแล้วกว่าหมื่นราย ยังไม่มีเสียชีวิต พบมากที่สุดในเด็ก 1 ขวบ 5 จังหวัดท็อปไฟว์ สุราษฎร์ เชียงใหม่ ภูเก็ต ชุมพร ประจวบฯ ให้สังเกตอาการลูกหลาน ถ้าเด็กป่วยให้หยุดพักอยู่บ้าน หากอาการไม่ดีต้องรีบพบหมอทันที อันตรายมีโอกาสเสี่ยงถึงเสียชีวิตได้ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้เข้าสู่ช่วงฤดูฝน อากาศที่เย็นและชื้น เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ ประกอบกับโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว ดังนั้น โรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีคือ โรคมือ เท้า ปาก จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.– 21 พ.ค.62 มีรายงานผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก 11,107 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ 1 ปี รองลงมาคือ 2 ปี และ 3 ปี ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด 5 อันดับแรกคือ สุราษฎร์ธานี รองลงมาคือ เชียงใหม่ ภูเก็ต ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ โรคมือ เท้า ปาก พบมากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ และสามารถติดต่อจากการได้รับเชื้อไวรัสเข้าทางปากโดยตรง โดยเชื้อไวรัสจะติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการไอ จาม รดกัน หากผู้ป่วยได้รับเชื้อจะมีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1-2 วัน มีอาการเจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็กๆ ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้าตุ่มแผลในปาก ที่เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น ต่อมาจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชัก เกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจติดเชื้อโรคมือ เท้า ปากชนิดรุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงแนะนำผู้ปกครองดูแลและสังเกตอาการบุตรหลาน วิธีป้องกันคือ ลดการสัมผัสเชื้อ หมั่นทำความสะอาดของใช้-ของเล่นเด็กเป็นประจำ, หมั่นให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ และหากบุตรหลานป่วยควรแยกของใช้และไม่ให้คลุกคลีคนอื่นเพื่อลดแพร่เชื้อ หากเด็กมีอาการข้างต้นให้หยุดเรียนและรักษาจนหาย ทั้งต้องแจ้งโรงเรียน-ศูนย์เด็กเล็กทราบ เพื่อค้นหาเด็กที่อาจป่วยเพิ่มเติม