ชาวบ้านโนนเที่ยงศิริมงคล อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ โวยประธานร้านค้าประชารัฐปิดร้าน ไม่ชี้แจงสถานะการเงินที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล 3 ปี จำนวนเงิน 8 แสน สอบถามบ่ายเบี่ยงไม่คืบหน้า ร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเรื่องยังเงียบ เรียกร้องส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพราะเป็นเงินที่รัฐบาลจัดให้ชาวบ้านส่วนรวม ไม่ใช่ให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดแสวงผลประโยชน์ฝ่ายเดียว เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 ที่ร้านค้าประชารัฐ บ้านโนนเที่ยงศิริมงคล หมู่ 15 ต.นามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านจำนวน 10 คน นำโดยนางสุมาลี วงศ์ศรีเทพ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 85 หมู่ 15 และนางบุดดี ใจถวิล อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 197 หมู่ 15 ได้สำรวจบริเวณหน้าร้านและหลังร้านค้าประชารัฐประจำหมู่บ้าน หลังถูกปิดบริการมาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2561 โดยชาวบ้านแจ้งว่าประธานร้านค้าที่ทำหน้าที่บริการจัดการ ได้ทำการปิดร้าน โดยไม่มีการชี้แจงงบดุล และอ้างว่าถูกมิจฉาชีพบุกรุก สร้างความเสียหายให้กับร้านค้า นางสุมาลี วงศ์ศรีเทพ กล่าวว่า ร้านค้าประรัฐดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล และผ่านการประชาคมเห็นชอบของชาวบ้าน ในการจัดตั้งเป็นร้านค้าประชารัฐเมื่อปี 2559 เพื่อเป็นจุดบริการให้ชาวบ้านที่มีบัตรคนจน หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาใช้บริการโดยแลกเปลี่ยนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น เพื่อลดค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ตามนโยบายรัฐบาล โดยปี 2559 ได้รับการสนับสนุนจำนวน 2 แสนบาท ปี 2560 จำนวน 3 แสนบาท และปี 2561 จำนวน 3 แสนบาท รวม 8 แสนบาท นางสุมาลี กล่าวอีกว่า การบริหารจัดการร้านค้าประชารัฐดังกล่าว มีภรรยาของผู้ใหญ่บ้านเป็นประธานร้านค้า ดำเนินใน 2 ปีแรกไม่มีปัญหา ชาวบ้านได้นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาใช้บริการได้ตามปกติ ถึงสิ้นปีมีการชี้แจงงบการเงิน แต่พอถึงปีที่ 3 ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2561 ประธานร้านค้าประชารัฐ ได้ทำการปิดร้าน โดยใส่กุญแจล็อคไว้อย่างแน่นหนา พอชาวบ้านไปสอบถามกลับอ้างว่า ร้านค้าถูกคนร้ายบุกรุก เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2561 โดยปีนเข้าทางหลังร้านและเข้าทางหลังคา ทำให้ร้านค้าเกิดความเสียหาย จึงได้ปิดร้านและแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามชาวบ้านโนนเที่ยงศิริมงคล ยังเกิดความสงสัยว่าทำไมยังไม่เปิดร้าน ให้บริการชาวบ้านที่เป็นสมาชิกตามปกติ และพอถึงสิ้นปี ทำไมประธานร้านค้าประชารัฐไม่ชี้แจงงบการเงิน ทั้งนี้ จากการไปสอบถามหลายครั้ง ประธานร้านค้าบอกว่าอยู่ระหว่างเตรียมเอกสาร จึงยังไม่ชี้แจง ด้านนางบุดดี ใจถวิล กล่าวว่า คำตอบของประธานร้านค้าประชารัฐดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งรู้สึกสงสัยในการบริหารจัดการ และทำให้เสียโอกาสในการใช้บริการร้านค้า ที่จะต้องใช้บัตรคนจนไปแลกเปลี่ยนข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ผงชูรส น้ำปลา ปลากระป๋อง ผงซักผ้า ซึ่งเปิดร้านมานานกว่า 4 เดือนแล้ว ทั้งนี้ได้ร่วมกันทำหนังสือร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนามน เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2562 เพื่อมีการตรวจสอบ และให้มีการเปิดร้านบริการชาวบ้านต่อไปตามปกติ นางบุดดี กล่าวอีกว่า ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกของร้านค้าประชารัฐ ต้องการให้ประธานร้านค้ามีการชี้แจงเพื่อความโปร่งใส ทั้งรายรับ รายจ่าย ผลกำไร เพราะที่ผ่านมาคณะกรรมการที่ตั้งไว้ 8-9 คน ไม่มีใครรู้เรื่องสถานะทางการเงิน ของร้านค้าประชารัฐเลย ขณะเดียวกันทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนามน ที่ชาวบ้านไปส่งหนังสือร้องเรียนให้มีการตรวจสอบ ก็ยังไม่ให้คำตอบใดๆ ชาวบ้านจึงได้มารวมตัวกันที่ร้านค้าประชารัฐประจำหมู่บ้าน และปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อที่จะได้มีร้านค้าประชารัฐ ที่เป็นจุดบริการใช้บัตรคนจนใกล้บ้าน และอยากให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และฝ่ายปกครอง ทำการการตรวจสอบประธานร้านค้าประชารัฐด้วย ว่าสาเหตุที่ปิดร้านคืออะไร และทำไมไม่เปิดร้านให้บริการชาวบ้านอีก เพราะร้านค้าประชารัฐ เกิดจากรัฐบาลจัดงบประมาณสนับสนุนให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ใช่ให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดแสวงผลประโยชน์ฝ่ายเดียว /ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์