"เฒ่า"วัย 70 หลังกรีดยางเสร็จขึ้นเขาภูวัวไปหาของป่าเลี้ยงชีวิต พร้อมก่อไฟนำไปรนรังผึ้ง แต่พลาดท่าโดนรุมต่อย ก่อนวิ่งหนีสุดชีวิตไปล้มลง ก่อนถูกไฟที่ตัวเองก่อไว้ย่างสดดับอนาจ เมื่อเวลา 07:00น. วันที่ 22 พ.ค.62 ร.ต.อ.คำผง สุนะไตร รอง.สว.(สอบสวน)สภ.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ รับแจ้งจาก นายทวีป กำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ว่า พบชายเสียชีวิตบนเขาภูวัว จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อธิคม จันทร์อินทร์ ผกก. รับทราบ พร้อมประสาน น.พ.ณรงค์วรรษ พรหมสาขา ณ สกลนคร แพทย์โรงพยาบาลบุ่งคล้า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์ป่า ผู้นำชุมชน หน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากสำนักงานเขตรักษพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ้านขามเปี้ย หมู่ที่ 7 ต.บุ่งคล้า ประมาณ 4 กิโลเมตร ต้องเดินเท้าขึ้นไปบนสันเขาใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า จึงพบศพ นายกัณหา จูมวงค์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ที่ 7 บ้านขามเปี้ย ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า สภาพศพคว่ำหน้าคุกเขาโก่งโค้งอยู่กับพื้น เสื้อผ้าที่สวมใส่โดนไฟไหม้หมด เห็นผิวหนังพุพองทั้งตัว ที่เท้าสองข้างมีซากรองเท้าบูทที่โดนไฟไหม้จนละลายติดเท้า ใกล้กับศพมีกระเป๋าสะพายสำภาระตกอยู่ห่างออกไป 50 เมตร พบถังสีขาวมีผ้าขาวม้าผูกไว้อยู่ใต้หน้าผาที่มีผึ้งหลวงทำรังขนาดใหญ่เกาะอยู่ จึงได้ช่วยกันนำร่างลงมาจากเขาให้แพทย์ชันสูตรศพ และมอบศพให้ญาติไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป สอบสวน นางสลิทธิ์ พรหมวงค์ อายุ 60 ปี ภรรยา เล่าทั้งน้ำตา ว่า หลังจากกรีดยางเสร็จทุกวันผู้ตายก็จะขึ้นเขาไปหาของป่าเป็นประจำ บางครั้งก็ได้เห็ด หน่อไม้ และก็รังผึ้งนำมาทำอาหารเลี้ยงครอบครัว หากเหลือก็จะแบ่งขายเป็นรายได้เสริม โดยจะกลับเข้าบ้านในช่วงเย็นๆ ของทุกวัน แต่เมื่อวันที่ 21 พ.ค.นี้ ไม่เห็นกลับตามปกติ จึงได้ไปแจ้งผู้นำชุมชนชักชวนกันออกตามหาทั้งคืนก็ไม่พบ พอรุ่งเช้าก็ออกตามหาบนเขาภูวัวอีกครั้ง มาพบกลายเป็นศพดังกล่าว