"สตม."รวบชาวญี่ป่น 15 คน เป็นสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ใช้ประเทศไทยเป็นฐานหลอกคนญี่ปุ่นด้วยกันกว่า 200 ราย สูญเงินกว่า 200 ล้านเยน คิดเป็นเงินไทยกว่า 70 ล้านบาท พบพฤติกรรมสุดโหดหากรู้เหยื่ออยู่บ้านคนเดียวจะส่งคนไปปล้นและฆ่า ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 22 พ.ค.62 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผบช.สตม., พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รองผบช.สตม. ,พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. ,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม3 ตัวแทนจากสถานเอกอักคราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และตำรวจ สตม. ร่วมแถลงส่งตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น จำนวน 15 คน ที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายชาวญี่ปุ่นให้โอนเงินมาให้ สร้างความเสียหายกว่า 200 ล้านเยน หรือประมาณกว่า70 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เสียหายเป็นชาวญี่ปุ่นกว่า 200 คน พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ตำรวจไทยได้ทำตามแผนการตรวจคนเข้าเมือง เพื่อกวาดล้างบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาประกอบอาชีพในไทยอย่างผิดกฎหมาย โดยผู้แจ้งเป็นเจ้าจองที่พักที่เห็นพฤติกรรมผิดปกติ จึงได้แจ้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ชลบุรี ตรวจสอบจนพบว่าชาวญี่ปุ่นทั้ง 15 ราย ตั้งเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้าน พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคน เข้าเมือง 3 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ขอหมายศาลแขวงพัทยาเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 78/219 หมู่บ้านสยามรอยัลวิลล์ หมู่ที่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบคนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่นจำรวน 15 คน นั่งทำงานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมอุปกรณ์ในลักษณะของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ โดยแก๊งดังกล่าวได้ใช้วิธีการข่มขู่ผู้เสียหายที่เคยซื้อข้อมูลจากดาร์คเว็ปของญี่ปุ่น หรือมีหมายศาลปลอมส่งผ่านอีเมลให้ผู้เสียหายกลัวและหลงเชื่อ โดยการโอนเงินจะให้ผู้เสียหายซื้อบัตรอีมันนี่ที่ร้านสะดวกซื้อ และส่งรหัสให้กับผู้ต้องหา และหากพบว่าเหยื่ออยู่บ้านเพียงลำพัง ก็จะส่งเครือข่ายชาวญี่ปุ่นไปปล้นที่บ้านพัก และฆาตกรรมเจ้าทรัพย์ ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ถือว่าได้ตัวการ 1-2 คน ภายหลังจากการจับกุมดังกล่าว ทางการญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประสานข้อมูลการจับกุม เพื่อนำไปขยายผลต่อในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ทราบว่ามีผู้เสียหาย ซึ่งถูกหลอกลวงจากผู้ต้องหา กลุ่มนี้ไม่ต่ำกว่า 200 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 200 ล้านเยน ซึ่งศาลแขวงนครโตเกียวได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 15 รายในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกง" ไว้ด้วย