จากกรณีมีการนำเสนอข่าวเผยแพร่ออกไปในกรณีที่นายหลงเฝียะ หรือ บังเดียร์ ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านน้ำราบ ได้ก่อสร้างอาคารในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งทางหัวหน้าสถานีพัฒนาป่าชายเลนที่ 40 (บางสักตรัง) สั่งให้รื้อถอนโดยระบุว่าสิ่งปลูกสร้างไม่ได้แจ้งหรือรับการยินยอม อนุมัติจากหน่วยงาน จนสมาชิกในกลุ่มประมงพื้นบ้านได้รวมตัวกันออกมาประกาศยุติความร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)เปิดเผยว่า เรื่องนี้ ทช.ไม่ได้นิ่งนอนใจได้หารือร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนเพื่อหาทางออกที่ดีให้กับ 2ฝ่าย พร้อมทั้งมอบหมายให้นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายไมตรี แสงอริยนันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (ตรัง) และนายเกรียง มหาศิริ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่เป็นการด่วนเพื่อพบพี่น้องสมาชิกกลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านน้ำราบ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เป็นการสร้างเพิงศาลาใหม่ทดแทนศาลาเรียนรู้ตามศาสตร์พระราชาหลังเดิมที่ชำรุด แต่ขาดการประสานงานในพื้นที่ ประกอบกับมีการร้องเรียน ทางสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (ตรัง) ซึ่งอยู่ในพื้นที่จึงต้องดำเนินการตามระเบียบและข้อกฏหมาย ทั้งนี้ นายหลงเฝี๊ยะ ไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างรุกล้ำหรือดำเนินการเพื่อประโยชน์ส่วนตน และยังยืนยันร่วมเป็นเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลของ ทช.ต่อไป ซึ่งภายหลังจากการลงพื้นที่พูดคุยแล้วเสร็จ ทช.จะไม่มีการรื้อเพิงศาลาที่สร้างใหม่นี้แต่อย่างใด และอนุญาตให้กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลเข้าไปใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย