“สมคิด” แจงภาพ ภท.-ปชป.จับมือ บอกคนในวงการเมืองเป็นมิตรกัน ออกตัวไม่มีนักการเมืองเข้าพบพูดคุย ทุกฝ่ายหวังตั้งรัฐบาลเร็ว โยนเจรจาจบเร็วช้าไปถามพปชร. กั๊กช่วย “บิ๊กตู่”ต่อหรือไม่ เมื่อเวลา 12.15 น.วันที่ 22 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.)นัดพิเศษ ว่า ไม่ได้มีการหารือเรื่องการเมือง มีเพียงแต่นำภาคเอกชนเข้าพบเพื่อมอบหนังสือผลการดำเนินงานในส่วนของเอกชน เมื่อถามถึงกรณีปรากฏภาพนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จับมือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเร็วขึ้นหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า “คนในวงการเมืองรู้จักกันทุกคน ยิ่งเป็นมิตรกันเท่าไหร่ก็ยิ่งดี” เมื่อถามว่ามีใครมาพูดคุยด้วยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า จะมาพูดคุยกับตนได้อย่างไร ตนอยู่ฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายการเมือง ส่วนที่มีชื่อตนเข้าไปเกี่ยวข้อง สื่อฯก็ชอบไปเขียนเอง ตนไปเกี่ยวที่ไหน เมื่อถามว่ามีใครมาทาบทามท่านล่วงหน้าหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า “จะมาทาบทามตนได้อย่างไร ที่ผ่านมาแต่ละคนก็อายุพอสมควรแล้ว” เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมาโดยเร็วหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ทุกคนต้องการตั้งรัฐบาลให้เร็วอยู่แล้วขึ้นอยู่กับความร่วมมือกัน พูดจากันให้เข้าใจ เมื่อถามว่ารองนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี(ครม.) จะเป็นชุดเดิมหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่มีใครรู้อยู่แล้ว ที่พูดกันก็ไปพูดกันเอง ตั้งกันเองทั้งนั้น ส่วนที่มีชื่อตนอยู่ด้วย จะมีชื่อใครขึ้นมาได้อย่างไรในเมื่อยังไม่รู้เลยใครจะมาเป็นนายกฯ ทุกอย่างมีขั้นตอนและ4-5 ปีที่ผ่านมาถือว่าเรามาไกลมากแล้ว อย่าให้ทุกอย่างที่สร้างมาถดถอยลงไปน่าเสียดาย อยากให้มองข้างหน้าร่วมมือกันประชาชนจะได้ไม่เบื่อ เมื่อถามย้ำว่าหากนายกฯเป็นพล.อ.ประยุทธ์ ยังจะช่วยสนับสนุนทำงานต่อไปหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดภายหลัง เพราะถึงอย่างไรต้องให้ชัดเจนก่อนว่าครม.จะมีใครบ้าง และใครเป็นนายกฯ ตัวบุคคลมาทีหลังทั้งนั้น ในความต่อเนื่องของบุคคลจะทำให้ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ตนมองว่าความสำคัญอยู่ที่ความต่อเนื่องของระบบและนโยบาย ตัวบุคคลคงไม่ใช่ แต่ตัวบุคคลบางคนก็เป็นที่น่าเชื่อถือกับต่างประเทศ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่ง มันอยู่ที่รัฐบาลอยู่ที่นโยบาย เมื่อถามว่าหัวหน้าพรรคและเลขาฯพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่เคยมาขอคำปรึกษาอยู่เรื่อยๆ ขณะนี้ได้เข้ามาขอคำปรึกษาอะไรหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ช่วงหลังมานี้ ตนไม่ค่อยได้เจอกับหัวหน้าและเลขาฯ พรรค เพราะงานเขาเยอะ เขาคงเจรจาพูดคุยกัน ในส่วนของตนที่รับผิดชอบหลายกระทรวงก็ไม่รู้จะหมุนอย่างไร ส่วนการเจรจาของพรรคพปชร. ก็ต้องไปถามจากพรรคพปชร. เมื่อถามว่ามีความกังวลว่า การเมืองในปัจจุบันจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าถ้าการเมืองดีเศรษฐกิจก็ดีขึ้น และตอนนี้เราก็กำลังเผชิญกับสงครามการค้า ซึ่งรู้กันอยู่แล้วว่าการส่งออกของเราได้รับผลกระทบ และบังเอิญเรามีเรื่องการเลือกตั้งเข้ามา รวมถึงหลังการเลือกตั้ง ที่ผ่านมาหลายเดือนความไม่แน่นอนก็ยังมีอยู่ เพราะก่อนจะมีรัฐบาลใหม่ การตัดสินใจลงทุนอะไรเขาก็ต้องชะลอดู ซึ่งหวังว่าจะชัดเจนได้ในเวลาไม่นานนัก อยากให้ปรองดองกันและมองถึงอนาคตของบ้านเมืองเป็นหลัก