พื้นที่การทำการเกษตรในจังหวัดสุโขทัยส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติต่ำ กรมพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินสุโขทัย ได้เข้ามาส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่บ้านยางตอย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย รวมกลุ่มกันเพื่อจัดตั้งธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ กระตุ้นให้เกษตรกรเห็นความสำคัญของการปรับปรุงบำรุงดินและนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อลดต้นทุนด้านการเพาะปลูก เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร และเป็นต้นแบบการจัดตั้งธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ เป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อีกแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.สุโขทัย ที่สมาชิกให้ความสนใจ และเกิดการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง นายนิพนธ์ ตรีระแสง เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญงาน กล่าวว่า สถานีพัฒนาที่ดินสุโขทัย เริ่มจัดตั้งธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ มาตั้งแต่ปี 2560 โดยพื้นแรกคือ หมู่ที่ 2 บ้านยางตอย ตำบลแม่สิน อำเภอศรีสัชนาลัย มีสมาชิกกว่า 50 ราย ในส่วนการดำเนินงาน ธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ ในปี 2562 นี้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งคือหมู่ที่ 10 บ้านปางสา มีสมาชิกกว่า 54 ราย ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าว มีการตื่นตัวเป็นอย่างมากในการลดใช้สารเคมี เนื่องจากต้นทุนการซื้อปุ๋ยเคมี มีราคาที่สูง ซึ่งสารเคมีที่เกษตรกรใช้มีผลกระทบอย่างมากต่อตัวเกษตรกรเอง ในส่วนของกรมพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินสุโขทัย ส่งเสริมในเรื่องการลดใช้สารเคมี เพื่อใช้อินทรีย์ทดแทน โดยแนะนำเกษตรกรลดใช้สารเคมี และเพิ่มปุ๋ยอินทรีย์ เป็นการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร ธนาคารปุ๋ยอินทรีย์บ้านยางตอย เป็นแหล่งศึกษาดูงานของเกษตรกร มีเกษตรกรเข้ามาศึกษาดูงานเกี่ยวกับธนาคารปุ๋ยอินทรีย์อยู่ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นต้นแบบในการทำการเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่บ้านยางตอย ส่วนใหญ่ปลูกส้มสีทอง และที่ทำการผลิตปุ๋ยอินทรีย์บ้านยางตอยแห่งนี้ ร่วมกันผลิตปุ๋ยอินทรีย์ โดยให้สมาชิกเกษตรกร นำเอาวัสดุเหลือใช้ในการทำเกษตร ในไร่นา และมูลสัตว์ มาฝากที่ธนาคาร โดยธนาคารจะทำการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ให้เกษตรกรสมาชิกมาเบิกถอน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ เมื่อวัสดุที่นำมาฝากของสมาชิกนั้นย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย สมาชิกเกษตรกรก็สามารถมาเบิกปุ๋ยและน้ำหมักชีวภาพไปใช้ในพื้นที่ทำการเกษตรของตนเองได้ นอกจากรวมกลุ่มกันผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองภายในกลุ่มแล้ว ยังสร้างรายได้ให้กับสมาชิกกลุ่มในยามว่าง โดยการจ้างสมาชิกในกลุ่มนั้นมาผลิตปุ๋ยหมัก กรอกปุ๋ยหมัก ผลิตน้ำหมักชีวภาพ และขายปุ๋ยหมักให้แก่เกษตรกรที่ไม่ใช่สมาชิกในราคาตันละ 5,000 บาท ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรภายในกลุ่มเท่านั้น แต่ยังสร้างเครือข่ายการผลิตปุ๋ยที่เป็นต้นแบบให้แก่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณ ขยะและเศษวัสดุเหลือใช้จากการทำการเกษตรในพื้นที่ของเกษตรกรอีกด้วย หากเกษตรกรมีความสนใจในเรื่องการทำปุ๋ยอินทรีย์ มีวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และกลุ่มเกษตรกรมีความเข้มแข็ง เชื่อมั่นในเกษตรอินทรีย์ สามารถรวมกลุ่มมาได้ตั้งแต่ 20 กว่ารายขึ้นไป ติดต่อมาทางสถานีพัฒนาที่ดินสุโขทัย ทางสถานีพัฒนาที่ดินสุโขทัย จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ สร้างจิตสำนึกให้เกษตรกร ลด ละ เลิก ในการใช้สารเคมี ร่วมกันใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ในพื้นที่การทำเกษตรต่อไป