ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 พ.ค. 62) ที่ห้องประชุมบ้านใหม่พัฒนา ต.น้ำเกี๋ยน อ.ภูเพียง จ.น่าน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จัดโครงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา คลัสเตอร์สมุนไพรชีววิถีน้ำเกี๋ยน ทั้งด้านเกษตรกรผู้ปลูก ด้านการแปรรูป โดยวิสาหกิจชุมชน และด้านการตลาด ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 โดยที่ผ่านมาได้ประสบผลสำเร็จแล้วหลายประการ ผศ.ดร.มโน สุวรรณคำ ผู้ประสานงานโครงการสนับสนุนเครือข่าย SME จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรวมกลุ่มผู้ประกอบการ SME ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ที่ผ่านมาการพัฒนาผู้ประกอบการแบบคลัสเตอร์ เป็นอีกแนวทางที่ประสบความสำเร็จ แบบก้าวกระโดด สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ กระจายรายได้ ก่อให้เกิดการจับจ่าย และเกิดการพัฒนาสินค้า ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี 2562 นี้ จะพัฒนาคลัสเตอร์สมุนไพรที่เข้มข้นมากขึ้น เพิ่มความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการที่เข้ามาร่วมโครงการ ในการพัฒนาจะเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นแนวทางหลักเพื่อให้เกิดกรพัฒนาศักยภาพของกลุ่มผู้ประกอบการ สามารถดำเนินธุรกิจและแข่งขันได้ทั้งในตลาดระดับประเทศ และตลาดต่างประเทศได้ นอกจากนี้ยังได้อบรมเชิงปฏิบัติการให้กับคลัสเตอร์ชีววิถีน้ำเกี๋ยน ในหัวข้อ การพัฒนาศักยภาพในการดำเนินงานของคลัสเตอร์ชีววิถีน้ำเกี๋ยน กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายสมุนไพร ภายใต้โครงการสนับสนุน SME ปี 2562 การได้รับองค์ความรู้มาตรฐานด้านการผลิตสุมนไพร และช่องทางการค้าขายบนตลาดออนไลน์ แนวทางการเพิ่มยอดขายกับเทคนิคตลาดออนไลน์ รวมถึงให้คำปรึกษาด้านการวางแผนการเงินอีกด้วย ด้าน นายชูศิลป์ สารรัตนะ ประธานวิสาหกิจชุมชนชีววิถี ต.น้ำเกี๋ยน จ.น่าน กล่าวว่าการรวมกลุ่มคลัสเตอร์หรือเครือข่ายก่อให้เกิดความเข้มแข็ง สามารถพัฒนาธุรกิจต่อไปได้ สิ่งสำคัญคือการขยายผลต่อยอดธุรกิจ พัฒนาสมุนไพรสู่สินค้า ผลิตภัณฑ์ที่ดี มีมาตรฐานและผ่านการรับรองคุณภาพ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อและได้รับการยอมรับของวิสาหกิจชุมชนของเราก็คือแชมพูใบหมี่ กิจกรรมพัฒนาเครือข่ายสมุนไพรฯ ครั้งนี้ เปรียบเหมือนนำพาทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการ มาชาร์ตแบตเตอรี่ ป้อนไปใช้ในสมองเพื่อการต่อยอดธุรกิจ ขยายพื้นที่ของสมุนไพรให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น