ผู้นำชุมชนยันเด็ก 8 ขวบชอบเล่นกับแมว หลังแมวถูกรถชนตายบนถนนจึงลากกลับเข้าบ้าน ทำสังคมมโนจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตของการฆาตกรรมสัตว์เลี้ยง ขณะชาวบ้านหลายรายระบุตรงกันยังไม่มีใครเคยพบเห็นด้วยตาในขณะที่เด็กกำลังลงมือทำ ส่วนเรื่องพฤติกรรมก้าวร้าวนั้นพอมีให้เห็นบ้าง วันที่ 20 พ.ค.62 เวลา 17.00 น. นายเจนวุฒิ ประเสริฐ กำนัน ต.หนองบัว อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณี มีกระแสข่าวประโคมผ่านทั้งสื่อกระแสหลักบางช่องและสื่อโซเชียลในสังคมออนไลน์ว่า มีเด็กชายวัย 8 ขวบรายหนึ่ง มีพฤติกรรมชอบฆ่าแมวในพื้นที่นั้นไม่เป็นความจริง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นจากเด็กชายรายนี้ชอบเล่นกับแมว ในวันเกิดเหตุเด็กมาเห็นแมวถูกรถชนตายอยู่บริเวณบนถนนหน้าบ้าน จึงได้ลากซากแมวกลับเข้าบ้าน โดยที่มีชาวบ้านขับรถผ่านไปบ่อเลี้ยงปลาได้เคยผ่านมาพบเห็นซากแมวที่นอนตายบนถนนอยู่ก่อนแล้ว ส่วนเรื่องพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กนั้น ได้เชิญทาง ผอ.โรงเรียนที่เด็กเรียนหนังสืออยู่มาพูดคุยกันแล้ว ทาง ผอ.โรงเรียนก็ยังยืนยันด้วยว่าเด็กไม่ได้มีพฤติกรรมก้าวร้าวชอบรังแกใครหรือเพื่อนในชั้นเรียน ตนจึงขอยืนยันว่าพฤติกรรมของเด็ก 8 ขวบรายนี้ ไม่ได้เป็นไปตามข่าวที่ลงไป โดยข้อมูลที่มีการนำไปลงในข่าวนั้น เป็นการบิดเบือนเกินความจริง เนื่องจากยังไม่เคยมีใครเห็นเหตุการณ์ในขณะที่เด็กเอามีดผ่าท้องหรือปาดเชือดคอเชือดแมว และหลังจากได้เรียกผู้ที่ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวไปมาสอบถามแล้ว เขาก็บอกเพียงว่าเขาเพียงแค่สันนิฐานเท่านั้น และยังไม่เคยเห็นด้วยตาจริงๆ เช่นเดียวกัน ทั้งยังบอกด้วยว่านักข่าวเอาไปบิดเบือนเอง นอกจากนี้ยังมีการไปลงข่าวด้วยว่ามารดาของเด็กนั้นเคยใช้ยาเสพติด แต่หลังจากให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบปัสสาวะหาสารเสพติดแล้วกลับไม่พบ อีกทั้งมารดาของเด็กยังทำงานในร้านสะดวกซื้อจึงเชื่อว่าทางบริษัทของของร้านสะดวกซื้อดังกล่าว ก็ต้องมีการตรวจสอบเรื่องของสารเสพติดของพนักงานเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการลงข่าวจนทำให้เกิดความเสียหายต่อครอบครัวเขาอย่างมากมายขนาดไหน แต่เมื่อตนถามว่าจะฟ้องร้องสื่อไหม ทางมารดาของเด็กบอกว่าไม่มีเงินที่จะฟ้อง ซึ่งตนเองก็ได้เสนอบอกไปว่าหากทางฝ่ายมารดาของเด็กจะฟ้องร้องตนเองในฐานะกำนันประจำตำบลในพื้นที่ก็ยินดีที่จะออกเงินค่าใช้จ่ายให้ จึงอยากให้สื่อได้ลงมาดูความจริงกัน อย่าเขียนกันจนเกินเลยไป นอกจากนี้ในส่วนของความช่วยเหลือต่อทางยายผู้พิการติดเตียงนั้น ที่ผ่านมาทางตนเองและ อบต. ได้เคยส่งเรื่องเข้าไปยังทาง พม. และจังหวัด หลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ปี 2561 โดยมีการลงเลขรับหนังสือทางราชการเรียบร้อย แต่กลับไปเขียนข่าวลงไปว่าไม่มีหน่วยงานจากภาครัฐเข้ามาดูแลเลย ซึ่งเป็นการบิดเบือนความจริงอีกเช่นเดียวกัน นายเจนวุฒิ กล่าว ขณะที่ น.ส.วรรณดา เอี่ยมสกุล อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.2 ต.หนองบัว อ.บ้านโพธิ์ กล่าวว่า หลังเห็นข่าวในกรณีนี้เกิดขึ้นคนในหมู่บ้านต่างพากันตกใจ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นในหมู่บ้านแต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมีใครเห็นกับตาว่าเด็กนั้นมีพฤติกรรมที่ชอบฆ่าแมวจริงๆ แต่ก่อนหน้าตนได้เห็นซากแมวนอนตายอยู่บนถนนอยู่ก่อนแล้ว จึงคิดไปว่าแมวนั้นถูกรถชนตาย และไม่ได้คิดว่าแมวจะถูกทำร้ายจนตาย ส่วนพฤติกรรมเด็กนั้นก็เคยเห็นว่ามีความก้าวร้าวอยู่บ้าง และเห็นเด็กชอบเดินอยู่บนถนน ส่วนคำว่า "ชอบฆ่าแมว "นั้น ในความคิดของตนเองก็ยังกังขาหรือข้องใจอยู่ว่า มันใช่หรือ เพราะยังไม่เคยเห็นเด็กลงมือทำจริงๆ หรือเคยพบเห็นซากแมวอยู่ในบ้านของเด็กมาก่อนจริงๆ น.ส.วรรณดา กล่าว สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา